ผู้ชายทอดทิ้ง เธอทุกข์ทรมาน ต้องรัดคาดท้องไม่ให้โตขึ้นมา
ผมมันเป็นพวกเจ้าคิดเจ้าแค้น เรื่องนี้พ่อรู้ดี ด้วยเหตุนี้นึ่เองที่ทำให้พ่อไม่ค่อยจะเล่าเรื่องราวของความขัดแย้งของครอบครัวพี่น้องของพ่อให้ฟังถ้าไม่จำเป็น แต่ก็แปลก ที่ก่อนพ่อจะตายไปเพียงไม่นานนั้น พ่อกลับเล่าเรื่องราวมากมายให้ผมฟัง กระทั่งการฝากฝังให้ช่วยดูแลแม่ ประหนึ่งพ่อจะรู้ถึงวันสุดท้ายของตัวเองและก็เป็นไปตามคาด ผมรู้สึกได้ถึงความเจ็บแค้นและฝังใจเจ็บ..............................................................................................................“หมอแค่อยากจะบอกว่า ลักษณะของเซลล์มะเร็งที่เธอเป็นอยู่นั้นมันพบเป็นส่วนน้อย พบไม่บ่อยหรอก การรักษามันจึงไม่เหมือนคนอื่นๆ” ผู้หญิงที่ผมพูดคุยด้วยอยู่นั้นคือหญิงสาวที่มีแค่เกือบ ๔๐ ปี เธอกำลังต่อสู้อยู่กับโรคมะเร็งที่ปากมดลูกโดยการรับเคมีบำบัด อายุเธอยังน้อยเมื่อเทียบกับคนไข้คนอื่นๆที่เป็นโรคเดียวกับเธอ“หมอว่าหนูจะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่คะ” “ไม่รู้ว่ะ ขึ้นอยู่กับสวรรค์ หมอกำหนดไม่ได้” ผมยิ้มให้ สำหรับคนที่ถามออกมาแบบนี้ย่อมมีอะไรน่าสนใจ“แล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ”“หมอที่นู่นบอกว่าอย่างเก่งก็ปีครึ่ง” เธออ้างถึงหมอประจำโรงพยาบาลจังหวัดที่ส่งตัวเธอมารักษา“เอาอย่างนี้ ฉันจะเล่าให้ฟัง”...
ศีลธรรมกับการทำแท้ง…ศีลธรรมเรื่องแท้งอยู่ที่ไหน
สองสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงเวลาของการตามหาชีพจรของตัวเอง ไหนจะไปกรุงเทพ พัทยา ไปๆ มาๆ หาดใหญ่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าต้องไปเป็นวิทยากรในประเด็นที่คาบเกี่ยวกับศีลธรรมอย่างแรง เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า สัปดาห์ที่แล้ว ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยได้จัดงานประชุมวิชาการประจำปีขึ้นที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ จอมเทียน ในวันที่ 13-15 ตุลาคม และในวันที่ 12 นั้น ได้มี precongress workshop ก่อนหนึ่งวัน ซึ่งก็มีหลายเรื่องหลายห้องมากจนผมเองก็ยังจำได้ไม่หมดเลย แต่ที่จำได้แน่ๆ...
ชีววิทยาและถุงยางอนามัย
นี่ก็เกือบจะ ๘ โมงเข้าไปแล้ว ผมยังคงนั่งเอื่อยเฉื่อยจิบกาแฟอยู่หน้าบ้าน ปล่อยให้ความเงียบมาบำบัดจิตใจที่ฟุ้งซ่านจากการเผลอไปฟังข่าวเช้าเข้าให้ ใครฆ่าใครด้วยวิธีใด ใครจะเป็นกลุ่มงูเก่ายุคใหม่ พวกเขาต้องมีสัตยาบันกันไหม และใครที่ต้องมาเสียชีวิตจากการที่มีคนเมาแล้วขับรถไปชนเขา ข่าวนี้เล่นเอาผมจิตตกเข้าไปอีก เผลอนึกไปว่า หากตัวเองต้องมาตายไปในตอนนี้พร้อมเมีย ลูกทั้ง ๒ คนจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร ถึงจะมีเงินล้นฟ้า มันก็คงสู้การกอดจูบอย่างคนึงหาเฉกเช่นตอนมีลมหายใจมิได้แน่ๆ
นกอีแพรดลงมาหาของกินแถวพื้นหน้าบ้าน แผ่แพนหางกระดกและส่ายให้ดูพอน่าตบ มีกระรอกตัวหนึ่งมันวิ่งไต่อยู่บนต้นลั่นทม ชะรอยจะมากินเศษมะพร้าวอ่อนที่ผมหั่นฝาเปิดเอาไว้และเตรียมพาไปทิ้ง นกพิราบที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับผมในช่วงนี้ มันครางอย่างได้อารมณ์อยู่บนหลังคาบ้าน
สรรพสิ่งรอบกายมันชวนให้การนั่งจิบกาแฟนั้นน่าอภิรมย์
ในช่วงเวลาเช้า อากาศมันเย็นกว่าช่วงสายแน่ๆ แต่กระนั้นมันก็ยังคงรู้สึกอุ่นๆ...
ทำแท้งศาสตร์ และนักเรียนแพทย์ปี 5
“ผมถามหน่อยสิ ถ้าหากตอนนี้ เธอเกิดตั้งท้องขึ้นมา เธอจะรู้สึกยังไง” ผมถามนักเรียนแพทย์สาวสวยคนหนึ่งขณะที่นั่งเรียนอยู่ในห้อง ซึ่งแน่นอน ว่าผมกำลังเป็นคนสอน..... วันนี้สอนหนังสือวิชา “ทำแท้งศาสตร์” ให้นักเรียนแพทย์ปี ๕ ที่กำลังเรียนอยู่ในกองสูตินรีเวช อันที่จริงก็สอนอยู่ทั้งปีนั่นแหละ แต่กองนี้เป็นกองสุดท้ายแล้ว พวกเขากำลังจะได้ขึ้นเป็นนักเรียนแพทย์ชั้นปีที่ ๖ หรือ extern (ถ้าสอบทุกอย่างผ่าน) การสอนในรอบหน้าก็จะเป็นปี ๕ ที่เพิ่งขึ้นมาจากปี ๔...
นักเรียนแพทย์รุ่นใหม่ให้ดูดแทนขูด เพื่อรักษาการแท้ง เพื่อวินิจฉัยมะเร็งในโพรงมดลูก
ถ้าใครสักคนจะต้องถูกขูดมดลูก กรุณาช่วยถามหมอสักนิด ว่าหมอจะขูดด้วยเหล็กขูดหรือจะดูดด้วยหลอดพลาสติก
เอาล่ะ มาเริ่มกัน
ถาม: ใครกัน ที่จะต้องถูกขูดมดลูก?
ตอบ: ผู้หญิง
เออ แน่ดิ ผู้ชายมันไม่มีมดลูกนี่นา ถึงแม้จะผ่าตัดแปลงเพศมาจนมีจิ๋มได้แล้ว มันก็ยังไม่มีมดลูก จะขูดหรือดูดในรูตูด มันก็ไม่ใช่กิจกรรมทางการแพทย์สักหน่อย
เราขูดหรือดูดโพรงมดลูกเพื่อการรักษาหรือวินิจฉัยโรคเท่านั้นครับ เป็นต้นว่า การตั้งท้องผิดปกติก็ทำแท้งซะ แท้งไม่ครบก็ดูดออกให้ครบซะ นี่คือการรักษา แต่หากเป็นการวินิจฉัย อันที่จริงก็ทำแบบเดียวกัน นั่นคือขูดหรือดูดเอาโพรงมดลูกออกมาเพื่อให้ได้ชิ้นเนื้อแล้วพาไปตรวจดูว่ามันเป็นมะเร็งหรือไม่ หลักๆก็มีเพียงเท่านี้
แล้วทำไมผมจึงจั่วหัวว่า ขูดหรือดูด
นั่นเพราะสมัยก่อน เรามีเทคโนโลยีในเรื่องแบบนี้ไม่มาก เราจึงใช้เครื่องมือที่เป็นเหล็กคมๆ...
เพศสัมพันธ์กันปีละครั้ง
“หมอรู้ไหม บางทีฉันก็ต้องถามตัวเอง ว่าเรากำลังข่มขืนสามีอยู่รึเปล่า” เธอเป็นคนเปิดประโยคนี้ออกมาก่อนที่ผมจะได้อธิบายว่าการตรวจภายในไปเมื่อครู่นั้นพบเจออะไรบ้าง
“หมอจำฉันได้ไหม ฉันเคยมาหาหมอเมื่อคราวก่อนเพื่อจะให้หมอทำรีแพร์ให้” เธอยังคงเรียกสติผมให้กลับมาสู่การสนทนา หลังจากที่เห็นผมทำท่าตะลึงจากบทสนทนาแรก
“จำได้สิ” ตอบว่าจำได้ เพราะเหลือบมองในประวัติเก่า ผมเขียนบันทึกการรักษาเอาไว้“ทำไมจะจำไม่ได้ เธอคือคนที่หมอบอกว่าจิ๋มปกติ จิ๋มของเธอหนีบได้แรงดี และท้ายที่สุดก็ไม่ยอมทำรีแพร์ให้” เธอยิ้มและพยักหน้า
“หมอยังพูดว่า หากจะให้จิ๋มเล็กกว่านี้ ก็เป็นรูตูดแล้ว” เธอแทบจะพูดประโยคนี้ขึ้นมาพร้อมผม
“ใช่ ผมก็ยังจำเรื่องราวนั้นได้” จะว่าไป ที่จำได้ก็เพราะในค่ำวันนั้น ผมได้เขียนเรื่องราวของเธอบันทึกเอาไว้ในรูปแบบเรื่องสั้นนั่นเอง ผมจำทุกเรื่องที่เขียนลงไปได้เสมอ และผมบอกเธอไปว่า “เมียไม่ใช่นางบำเรอ”
“ฉันไม่ได้จำจิ๋มของเธอเอาไว้หรอกนะ...
“..ทำแท้งคือการรักษา เป็นหมอก็ต้องรักษาคน..”
“คุณหมอที่อยู่ภาคใต้นั่น ดูเขาภูมิใจเสียนักหนา ว่าเป็นหมอทำแท้ง” มีเสียงกระซิบมาให้แอบได้ยินอย่างนั้น“ครับ ก็ทำแท้งคือการรักษาคนไงครับ เป็นหมอก็ต้องรักษาคน” ผมตอบกลับไป ทั้งๆ ที่ยังไม่แน่ใจนักว่าคุณหมอที่อยู่ภาคใต้คนนั้นจะใช่ผมในบทสนทนาหรือเปล่า “เขายังภูมิใจว่าได้เป็นวิทยากร” นั่นไง มันใกล้ผมเข้าไปอีก เพราะไอ้คนที่อยู่ภาคใต้และมักเป็นวิทยากรจะเหลืออยู่สักกี่คน เหมือนเล่นเกมโชว์ทายชื่อดาราทางทีวีเข้าไปทุกที“ครับ การป้องกันไม่ให้ผู้หญิงที่จะไปทำแท้งจริงๆ ถูกทำแท้งเถื่อนจนเกิดอันตรายต่อร่างกายและชีวิต มันก็น่าจะเป็นหน้าที่ที่สำคัญของหมออีกเช่นเดียวกัน และหนึ่งในนั้นคือการทำแท้งให้อย่างปลอดภัยและป้องกันการท้องใหม่ให้เรียบร้อย” ผมยังจำวงล้อของงานอนามัยการเจริญพันธ์ุที่ครูสอนได้ว่า การแท้งที่ปลอดภัยมันคือหนึ่งในงานของวงล้อนั้น และเรื่องแท้งนี่แหละ ที่ไม่ค่อยมีหมอคนไหนอยากเข้ามาข้องเกี่ยว“สวัสดีค่ะคุณหมอ”หนูได้อ่านที่คุณหมอเขียนเกี่ยวกับการทำแท้งนั้นหนูคือคนหนึ่งที่เกิดอุบัติเหตุนั้น ทุกวันนี้บาปติดในใจหนูเสมอในทุกวันเวลาเชื่อผมสิครับ ไม่มีใครมีความสุขใจในการทำแท้งเอาลูกตัวเองออกมาหรอกครับ...
“ท้องต่อไม่ได้ ควรทำแท้ง” โรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง
การตั้งท้องประเภทหนึ่งที่พวกผมพยายามอธิบายให้พวกเขาทั้งคู่ทราบว่า “ท้องต่อไม่ได้ ควรทำแท้ง” นั่นคือคู่สมรสที่มีลูกในท้องเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง
เรื่องนี้อาจจะยากสักนิด แต่เชื่อไหม มันอยู่ในตัวพวกเรา
จริงๆ เพราะผมกำลังพูดถึง “ระบบเลือดและการขนส่งออกซิเจน”
ทันทีทันใดที่พวกเรามุดหัวออกมาจากจิ๋มของแม่แล้วแหกปากร้องแทบตายเพื่อที่จะหายใจเอาลมเข้าไปขยายปอดให้ได้นั้น กระบวนการแลกเปลี่ยนก๊าซของร่างกายก็เริ่มต้นขึ้นทันที
อากาศถูกเราหายใจเข้าไปในปอด เข้าไปยังส่วนที่ลึกที่สุดซึ่งเป็นระบบหลอดเลือดฝอย ก๊าซออกซิเจนจะถูกดึงเข้าไปในหลอดเลือด โดยมีตัวมาจับคือฮีโมโกลบินบนผิวเม็ดเลือดแดง จากนั้นก็ถูกลำเลียงไปส่งยังส่วนอื่นๆของร่างกายต่อไปด้วยแรงปั๊มของหัวใจนั่นเอง
ประเด็นของเรื่องที่กำลังจะเล่าก็คือ ฮีโมโกลบิน และความผิดปกติของฮีโมโกลบินบินนี้นี่เอง เราเรียกมันว่า “ธาลัสซีเมีย”
เจ้าฮีโมโกลบินถูกกำหนดให้สร้างขึ้นมาด้วยพันธุกรรมของพ่อและแม่อย่างละครึ่ง คราวนี้ หากใครคนใดคนหนึ่งเกิดเป็นพาหะของความผิดปกติในการสร้างฮีโมโกลบิน ก็สามารถส่งพันธุกรรมนี้ไปให้ลูกด้วย และหากแจ๊กพ็อตจริงๆ ลูกเกิดได้รับพันธุกรรมของธาลัสซียเมียมาจากทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน เขาก็จะเป็นโรคธาลัสซีเมียเต็มรูปแบบ
บางแบบอาจจะแค่ซีดเล็กน้อย เม็ดเลือดแดงผิดรูป...
เรื่องเพศเล็กน้อยของวัยรุ่น
วันนี้ไปเยี่ยมคนไข้ที่ถูกผ่าท้องคลอดและตัดมดลูกไปเมื่อวันก่อนมา ลูกสาวเธอน่ารักน่าเอ็นดู เจ้าเปี๊ยกตัวนั้นมันกำลังถูกจับอาบน้ำในอ่างอาบน้ำเด็กของหอผู้ป่วย พี่พยาบาลกำลังสอนพ่อแม่ในการอาบน้ำเด็กอ่อน สอนไปวักน้ำไป ล้างหัว ล้างหน้า ล้างจิ๋มเด็ก
เสียงมันร้องไห้ดังลั่น โบราณว่าไว้ ปอดเด็กจะขยาย เด็กจะแข็งแรง ผมนึกในใจ...
ทำไมเราไม่อาบน้ำเด็กอ่อนพร้อมแม่วะ ทำไมไม่ใช้อ่างอาบน้ำของผู้ใหญ่ ให้แม่แก้ผ้าลงไปอาบกับลูกเลย อาบกันไป กอดคลอเคลียกันไป อยากจะรู้นัก ว่ามันจะแหกปากร้องอย่างที่เห็นในวอร์ดแบบเมื่อกี๊ไหม ดีไม่ดี มันอาจจะรู้สึกดีเหมือนได้อยู่ในมดลูกอยู่ก็ได้
น่าสนใจ...ผมเดินออกมาด้วยจิตใจแช่มชื่น เพราะจู่ๆ ก็นึกถึงลูกสาว ที่เมื่อครั้งมันยังตัวเล็กเป็นทารกแบบนี้อยู่นั้น ผมก็อาบน้ำให้ลูกทุกวัน...
การบาดเจ็บการตายจากการทำแท้งเถื่อนยังมีอยู่จริง
Sex symposium มันมีชื่อไทยว่า “การประชุมระดับชาติ สุขภาวะทางเพศ ครั้งที่ ๓ การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น จากยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน” จะยาวไปไหนวะ มันถูกจัดขึ้นมาโดย สสส. และหน่วยงานใหญ่ๆร่วมด้วยอีกหลายหน่วยงาน เค้าเชิญผมมาร่วมในการบรรยายในหัวเรื่อง “มุมมองของแพทย์ต่อการทำแท้งที่ปลอดภัย”
“ชื่อเชยจังครับอาจารย์” ผมบอกกับอาจารย์ที่เคารพรักในฐานะที่ท่านจะเป็นผู้ดำเนินรายการในช่วงผม ท่านเคยเป็นประธานราชวิทยาลัยสูติฯ ของผมเอง ท่านบอกว่า กลัวคนไม่เข้าฟัง
“ก็เล่นตั้งขื่อเสียแบบนี้” ผมยังไม่เลิก“แล้วแป๊ะจะตั้งขื่อว่าอย่างไร” เลยถูกท่านย้อนกลับ“หมอ ช่วยหนูด้วย หนูท้อง” ผมเสนอ
ห้องของผม...