ที่เขียนมาวันนี้ก็เพื่อจะแจ้งให้ทราบว่า เงินของท่านที่ส่งเข้ามา ได้ถูกใช้ด้วยความอิ่มเอิบใจ และอยากให้ได้รับความสุขไปด้วยกันครับ

เธอผู้รับชื่อ “สมใจ” 

ผมได้รับรายงานจากคุณหมอหมิงผู้เป็นลูกศิษย์ว่ามีคนไข้ท้องไม่พร้อมมาผิดที่ผิดทาง หรือเรียกว่าหลงทางมาคนหนึ่ง อายุครรภ์ของเธอราว ๗ สัปดาห์ โรงพยาบาลในจังหวัดใหญ่ที่เธออาศัยอยู่มีหมอสูติอยู่หลายคน แต่ไม่มีใครสักคนที่สามารถทำแท้งให้เธอได้ เขาจึงแนะนำให้เธอมารับบริการที่โรงพยาบาลหาดใหญ่

แต่ก็นั่นแหละ ผมว่าเธอหลงทาง เธอบอกให้รถจอดที่หน้าโรงพยาบาลของผม เพราะคิดว่าที่นี่คือโรงพยาบาลหาดใหญ่ ใช่สิ ม.อ.ก็อยู่ในหาดใหญ่นี่นา
“จะคุมกำเนิดแบบไหนดีครับ” ผมเปิดการสนทนาแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้สมใจได้คุยกับลูกศิษย์ผมไปมากมายแล้ว 

“จะฉีดยาคุมไปก่อนค่ะ แล้วค่อยไปใช้สิทธิ์ทำหมันที่โรงพยาบาลแถวบ้าน หมออย่าว่าหนูนะ ตอนแรกหนูก็คิดว่าที่นี่คือโรงพยาบาลหาดใหญ่ แล้วคราวนี้หนูจะใช้สิทธิ์การรักษาได้ยังไง ไม่ได้เตรียมเงินมามากพอแน่ๆ เลยค่ะหมอ” เธอเปิดการสนทนากับผมแบบนี้โดยไม่ได้สนใจคำถามของผมแต่อย่างใด นั่นน่าจะเป็นเพราะว่าคงกำลังคุยต่อเนื่องกันเรื่องสิทธิ์การรักษานี้อยู่พอดี

”เธอเลิกสนใจเรื่องสิทธิ์อะไรนั่นก่อน เอาเรื่องของตัวเอง ตอนนี้มาที่นี่ เธอเป็นคนไข้ของเรา ไม่มีเงินเราก็รักษา ใจเย็น ๆ“ ว่าด้วยเรื่องสิทธิ์นี่บอกเลยว่าผมหงุดหงิด มันทำให้คนไข้ที่ป่วยด้วยโรคหนักๆ ของเราหลุดออกจากระบบไปหลายคน สิทธิ์อยู่ที่นู่น ต้องไปรับการฝังยาคุมที่นู่น บอกไปอย่างนี้เสียหลายคน แล้วก็มีการตั้งท้องใหม่กลับมาอีกจนได้ 

”ยาทำแท้งที่นี่หลวงให้ใช้ฟรี ส่วนการคุมกำเนิดเดี๋ยวเราจัดการให้เอง ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ต้องจ่าย“ ฟังดูเหมือนผมรวย แต่เชื่อเหอะ ผมก็มีเงินของผมแหละ เพียงแต่กระบวนการช่วยคนไข้แบบนี้ ผมมีเงินกองทุนในมูลนิธิโรงพยาบาลสงขลานครินทร์อยู่ก้อนหนึ่ง มันมีชื่อเล่นว่า “กองทุนธนพันธ์ยากไร้” มีคนใส่เงินเข้ามาให้ผมใช้จ่ายเพื่อคนยากจน บริจาคกันเข้ามาจนเป็นเลขหลักล้าน…

ผมเคยเล่าให้ฟังไปนานแล้ว ระบบการดูแลคนไข้ของเราทุกคนล้วนเป็นไปตามสิทธิ์พื้นฐาน หลวงจ่ายค่ารักษาให้ แต่ในบางเรื่องนั้น สิทธิ์มันมองไม่เห็น เช่นค่ากินอยู่ขณะมาและใช้ชีวิตช่วงรับการรักษาพยาบาล ค่าเดินทาง ค่านู่นค่านี่ค่าน้ำค่าไฟ บ้านต้องเช่าละค่าข้าวค่าเหล้า แล้วจะเหลืออะไรล่ะ สิ้นเดือนสุดท้ายจะให้ทำยังไง เพราะเขาเลิกจ้างแล้ว

เดี๋ยยยยยยว นั่นมันเนื้อเพลง!
น่าจะมีคนรู้บ้างแหละว่าเพลงชื่ออะไร ใครร้อง แต่ต้องมีอายุประมาณนึงเชียวแหละ หิหิ

”ขอถามเรื่องส่วนตัวหน่อยได้ไหมครับ รายได้ของครอบครัวตอนนี้มีเท่าไหร่“
”เกือบหมื่นค่ะหมอ แฟนหนูทำงานอยู่คนเดียว ส่วนหนูตกงาน ปีที่แล้วน้ำท่วมบ้านถึงหลังคา เงินเยียวยายังมาไม่ถึงบ้านเราสักบาท“ จำข่าวเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อราวปลายปีก่อนที่ภาคใต้ตอนล่างไหมครับ 

”ลูกคนโตเรียนชั้นไหนแล้ว“ ผมทราบมาว่าเธอมีลูก ๓ คน
”คนโตเป็นเด็กพิเศษค่ะหมอ เขาปัญญาอ่อน ตอนนี้อยู่โรงเรียนประจำ ไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย รัฐออกให้ ส่วนอีก ๒ คนอยู่ ป.๑ กับอนุบาลค่ะ”
“แล้วมีเงินแค่นี้ต่อเดือน ลูกๆ ได้กินข้าวเช้าก่อนไปโรงเรียนทุกวันไหม” ผมแอบวิตกไปแทน เพราะที่บ้านผม ลูกๆ ต้องได้กินข้าวเช้าก่อนไปโรงเรียนทุกวัน
“ได้กินค่ะหมอ ทำกับข้าวกินกันเอง ไม่ได้ใช้เงินมากมายนัก” ถึงตอนนี้น้ำตาเธอร่วง คุณหมอหมิง ลูกศิษย์ผมก็ไวพอที่จะหันไปหยิบกระดาษทิชชูส่งให้

“แล้ววันนี้มีเงินติดตัวมากี่บาท” ผมกำลังทำงานนะครับ มิได้กรรโชกทรัพย์คนไข้แต่อย่างใด 
เธอหยิบกระเป๋าเงินใบนั้นขึ้นมา รูดซิบกระเป๋าแล้วหยิบเงินที่พับอยู่ขึ้นมานับ ตาผมไวพอที่จะเห็นแบบหยาบๆ ว่ามีจำนวนสองพันหกสิบบาท นอกนั้นเป็นกระดาษอะไรไม่รู้มากมาย

”หนูคุมมาตลอดนะหมอ มีไม่ใช้ถุงยางแค่ ๒ ครั้งเอง มันก็ท้องจนได้ หนูเสียใจจริงๆ “ เธอยังคงสะอื้น

“ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งร้อง ฉันแพ้น้ำตาผู้หญิง” ผมบอกเธอไปอย่างนั้น
”ก็มันเสียใจนี่หมอ ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้หรอก แต่มันไม่มีเงินจริงๆ“

ผมปล่อยให้ความเงียบทำงานระยะหนึ่ง การได้รำพึงรำพันแล้วมีคนฟัง การได้ร้องไห้ออกมาบ้าง มันน่าจะช่วยให้คลายทุกข์ลงได้บ้างกระมัง

”เรามีเงินให้เธอด้วยนะ ไว้เป็นค่าเดินทางกับค่าครองชีพระยะสั้นๆ เธอคิดว่าเราควรให้เธอเท่าไหร่ดี“ ผมถามออกไป บอกแล้วไง ผมรวย 

ผมรวยไง รวยทิพย์

“ร้อยเดียวก็พอค่ะหมอ”
“ฮ่ายยย นี่เธอ ยายสมใจ บางครั้งก็ไม่ต้องเจียมตัวมากจนเกินไปก็ได้” ผมเดินไปนวดหัวไหล่ให้สมใจ มันคือการเยียวยาคนไข้สไตล์ธนพันธ์ 

เชื่อผมไหม ดูแลคนไข้มาตลอดชีวิตการเป็นหมอ คนจนเป็นอย่างนี้จริงๆ เขาต้องการเพียงแค่นี้แหละ

“๑. ค่ายาฝังคุมกำเนิดและค่าฝังยา ให้ใช้เงินจากกองทุนธนพันธ์ยากไร้ ๒. กรุณาเบิกเงินเพื่อเป็นค่าครองชีพให้คนไข้อีก ๓,๐๐๐ บาท โดยใช้เงินจากกองทุนเดียวกัน” ผมเขียนและลงชื่อในใบสิทธิประโยชน์เพื่อให้เขาจัดการตามนั้น 

เธอยังคงขอบคุณผมไปร้องไห้ไป 

”เธอรู้ไหม มันไม่ใช่เงินฉัน มีคนเขาบริจาคเข้ามา และการได้ใช้เงินบุญแบบนี้ คนให้เขาก็จะได้รับบุญนี้ไป ฉันเป็นแค่สะพานเท่านั้น ไม่ใช่เงินฉัน และอีกคนที่เธอควรขอบคุณคือคุณหมอคนนี้“ ผมชี้ไปยังลูกศิษย์ ”ถ้าเขาไม่ใส่ใจเธอ เขาก็จะไม่เรียกฉันลงมาดูเธอหรอก เชื่อสิ“ 


อ่านจบใช่ไหมครับ
ที่เขียนมาวันนี้ก็เพื่อจะแจ้งให้ทราบว่า เงินของท่านที่ส่งเข้ามา ได้ถูกใช้ด้วยความอิ่มเอิบใจ และอยากให้ได้รับความสุขไปด้วยกันครับ

เธอผู้รับชื่อ “สมใจ” ผู้ซึ่งไม่สมใจในชีวิต
ส่วนผู้ให้มีมากมายเอ่ยชื่อไม่หมด กราบบบบบบบ
และผู้ได้หน้า คือ ผ ม เ อ้ ง ง ง ง ง ผ่าม!

ธนพันธ์ ชูบุญรวยทิพย์
๒๘ กพ ๖๗ 

ขอบคุณที่มา : ผศ. นพ.ธนพันธ์ ชูบุญ https://facebook.com/thanapan.choobun

ร่วมติดดาวให้เนื้อหาที่ท่านชื่นชอบ

คลิกที่ดาวเพื่อติดดาวให้เนื้อหานี้

จำนวนดาวเฉลี่ย 0 / 5. จากการติดดาวทั้งหมด 0

ยังไม่มีการติดดาวให้กับเนื้อหานี้... เป็นคนแรกติดดาวให้เนื้อหานี้