
ในชั่วโมงการเรียนวิชาทำแท้งในวันหนึ่ง เราพูดกันถึงเรื่องกฎหมายว่าด้วยข้อยกเว้นให้ทำแทังได้ที่สำคัญข้อหนึ่ง นั่นคือกรณีที่ทารกมีความพิการรุนแรง
พอจะนึกถึงความพิการรุนแรงแต่กำเนิดออกไหมครับ ความผิดปกติทางโครโมโซมบางชนิด เช่น กลุ่มไตรโซมี
…
เอางี้นะครับ
คนเราเกิดมาพร้อมจำนวนโครโมโซมในแต่ละเซลล์ ๒๓ คู่ เว้นเซลล์ไข่และอสุจินะครับที่จะมี ๒๓ แท่ง
หลับตานึกถึงปาท่องโก๋สิครับ โครโมโซมมีลักษณะแบบนี้แหละ คิดง่ายๆ พ่อกับแม่มีเซ็กส์กัน พ่อปล่อยอสุจิเข้าจิ๋มแม่ ตัวอสุจิที่ส่วนหัวมันมีโครโมโซม ๒๓ แท่ง ก็พุ่งไปครับ พุ่งไป เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาก็เลี้ยวไป ตาดีได้ ตาร้ายเสีย ตัวไหนไปถูกทิศได้เจอไข่ของแม่ ก็ปักหัวเข้าไปเลย ในไข่ของแม่ก็มีโครโมโซม ๒๓ แท่งครับ
คราวนี้เมื่ออสุจิปักหัวเข้าไปแล้ว มันก็ปล่อยโครโมโซมเข้านิวเคลียสของไข่แม่ ปล่อยให้โครโมโซมมันวิ่งเข้าไปโจ๊ะกัน จับคู่กันของใครของมัน แท่ง ๑ จับกับแท่ง ๑ แท่ง ๒ จับกับแท่ง ๒ เป็นแบบนี้ไปจน ๒๓ แท่งได้เจอกันหมด
เห็นไหม ต้นกำเนิดชีวิตของเราเกิดมาจากไอ้แท่งโครโมโซมทั้ง ๔๖ แท่ง หรือ ๒๓ คู่นี้แหละ เรียบง่ายมาก
เวลาหมอเขาพูดกัน เขาจะเรียกว่า 46,XX หรือ 46,XY
XX คือเพศหญิง มีปิ๊ และ XY คือเพศชาย มีเจี๊ยว
เราได้พันธุกรรมมาจากพ่อและแม่อย่างละครึ่งนะครับ
แล้วไตรโซมีคืออะไร
มันก็คือการที่มีโครโมโซมเกินมาแท่งหนึ่งไงครับ
อย่างไตรโซมี ๒๑ มันมีเบอร์ ๒๓ เกินมาแท่งหนึ่ง ทำให้เด็กคนนั้นมีโครโมโซมต้นกำเนิด ๔๗ แท่ง เด็กคนนั้นจึงมีความผิดปกติที่เรียกว่า “ดาวน์ ซินโดรม” พวกผมเขียนความผิดปกตินี้ว่า 47,XX+21
นี่ผมกำลังเล่าถึงความผิดปกติแต่กำเนิดนะครับ
ส่วนหนึ่งก็เกิดจากโครโมโซมผิดปกติ หลายๆอย่างเราก็รู้จักมันมากพอที่จะบอกพ่อแม่ได้ว่าลูกพิการอย่างไร จะเกิดอะไรกับลูกของเขาได้บ้าง บางอย่างก็แทบไม่รู้จักครับ
ความผิดปกติบางอย่างไม่ได้เกิดจากโครโมโซม แต่ร่างกายเขาผิดปกติเอง เช่น โรคหัวใจแต่กำเนิด ผนังช่องท้องไม่ปิด แขนขาสั้น กระดูกหักแต่กำเนิด ฯลฯ มากมายก่ายกอง
กฎหมายที่ยกเว้นให้พวกผมทำแท้งได้กรณีทารกในครรภ์มีความผิดปกติรุนแรงมันถูกเขียนไว้ว่า “หากทารกมีความพิการอย่างรุนแรง”
มันจึงเป็นที่มาของการเรียนกันในห้องเรียนของผมไงครับ
…
“ดาวน์ มีความพิการรุนแรงไหม” ผมตั้งคำถามแบบนี้
ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบของทั้งห้องเรียนคือ ใช่
เด็กดาวน์จะมีพัฒนาการช้า รวมถึงความพิการอีกหลายอย่างตามมา เช่นโรคหัวใจ ลำไส้อุดตัน เป็นต้น
“ผมอยากรู้ว่า หากใครสักคนในห้องนี้ท้องลูกเป็นดาวน์ จะทำแท้งไหม” คำตอบส่วนใหญ่คือ ทำ หากแต่มีคนส่วนน้อยอีกจำนวนหนึ่งตอบว่าไม่ทำ นั่นเพราะเขามองว่า เด็กดาวน์สามารถเกิดมาและมีชีวิตอยู่ในสังคมได้
ดีจริง
“แล้ว Klinefelter ล่ะ” ผมยังคงถามต่อไป
Klinefelter คือความผิดปกติที่มีโครโมโซมเป็น 47,XXY
เด็กที่เป็น Klinefelter จะเกิดมาเป็นเพศชายนะครับ สติปัญญาไม่อ่อน แต่ก็ไม่ได้เรียนเก่ง พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหวจะช้ากว่าปกติสักหน่อย พูดช้า อาจมีปัญหาด้านการเข้าสังคม มีปัญหาเรื่องเบาหวานและธัยรอยด์ได้ อัณฑะไม่ค่อยพัฒนาครับ มันเล็ก สร้างฮอร์โมนเพศชายได้น้อย และมีเจี๊ยวเล็ก
“ใครคิดว่า ความผิดปกติแบบนี้มีความรุนแรงบ้าง” ผมถามนักเรียนในคลาส
เกือบทั้งหมดตอบว่า “ไม่รุนแรง”
“แล้วแบบนี้ ถ้าเป็นลูกของตัวเอง จะให้ผมทำแท้งให้ไหม” ผมยังคงสนุก
ปรากฎว่าเกือบทั้งห้องตัดสินใจทำแท้ง
“เฮ้ย..เกิดอะไรขึ้น เมื่อกี๊บอกว่า 47,XXY ไม่ได้พิการรุนแรงไม่ใช่เหรอ” ผมอุทานประหนึ่งจบเอกด้านการแสดงมา
“สงสารลูกค่ะอาจารย์”
“เอ๊า..มีอะไรล่ะ แขนขาก็ออกมาครบ ตัวสูงด้วย เรียนไม่เก่งแต่เรียนได้ไม่ใช่เหรอ ฮอร์โมนเพศชายพร่องเราก็เสริมให้ได้” ผมเสริม
“แล้วเอาไงดี ตกลงว่า ความพิการรุนแรงนั้นใครเป็นคนตัดสินวะ” ผมยังคงถามต่อไป
“พ่อแม่ค่ะ” นั่นไง!
…
เมื่อราว ๓ ปีก่อน เรามีคู่สมรสถูกส่งมาจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ด้วยการตรวจพบว่าทารกในครรภ์เป็น 47,XXY แล้วหมอสูติที่ดูแลเธอตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะอธิบายต่อยังไงดี
“หมอที่นู่นบอกว่าลูกจะออกมามีอวัยวะครบครับ ไม่ได้ปัญญาอ่อน เค้าสามารถเติบโตได้ เราทั้งคู่เลยอยากจะมาถามหมอที่นี่เพิ่มเติม เบื้องต้นคือ เราอยากได้ลูก“ เขามาเพราะอยากได้ลูก และต้องการคำยืนยันถึงการตัดสินใจ
ผมจึงเปิด google ครับ อยากเห็นว่ามันจะอธิบายเรื่องความผิดปกติอะไรให้คนอ่านที่ไม่ใช่หมอได้เข้าใจ แล้วก็ส่งให้ทั้งคู่ได้อ่านไปพร้อมกับผม ซึ่งมันก็เหมือนกับที่พูดมาข้างต้นนั่นแหละ
จากนั้นก็นั่งฟัง ว่าเขาคิดและรู้สึกอย่างไร
“ถ้าจะท้องต่อ ก็ไปฝากกับหมอคนเดิมนั่นแหละ แต่หากจะทำแท้งเดี๋ยวเราจะจัดการให้” ผมบอกให้เขาทั้งคู่ออกไปนั่งตรึกตรอง โทรศัพท์ปรึกษาพ่อแม่ที่บ้านหากต้องการ หารือกันให้ดีๆ
…
“จะว่าไป ความเจี๊ยวเล็กนี่คือความพิการรึเปล่าวะ” ผมยกนิ้วก้อยตัวเองขึ้นมาดู มองซ้ายมองขวา เหมือนกำลังพิจารณาและหารือร่วมกัน บอกแล้วไง ผมจบเอกด้านการแสดงมา
อันที่จริงมันคือลูกเล่นของการเรียนในคลาส
“เชี่ยแล้วมึง สงสัยว่ากูต้องไปตรวจโครโมโซมแล้วว่ะ กูว่ากูอาจจะเป็น XXY ก็ได้“ ไอ้เจ้าลูกศิษย์ผู้ชายที่นั่งอยู่แถวหน้า ๒ คน มองหน้าแล้วคุยกัน
โถ..ลูก!
ธนพันธ์ ชูบุญแล้วผมต้องไปตรวจด้วยไหมวะ
๓ พ.ย. ๖๗ ขอบคุณที่มา : ผศ. นพ.ธนพันธ์ ชูบุญ https://facebook.com/thanapan.choobun