7 เมษายน 2560 ที่นครราชสีมา “มีคนพบทารกถูกทิ้งไว้ในซอยแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลนคร อายุหลังคลอดประมาณ 7-10 วัน มีมดกัดตามร่างกาย คาดว่าพ่อแม่ไม่พร้อมจึงนำมาทิ้ง..”

9 เมษายน ที่เชียงใหม่ “พ่อค้ารถเร่ ไปถึงอำเภอแม่ริม พบถุงใส่เนื้อวางอยู่ข้างทาง เปิดออกดู แทบช๊อค! เพราะมีร่างทารกอยู่ภายใน และเสียชีวิตแล้ว..”

ที่จังหวัดหนึ่งในภาคเหนือ “พบผู้หญิงท้องอายุ 23 ปี เพิ่งแต่งงานได้ 2 เดือน แต่ท้อง 24 สัปดาห์ ไม่มีประวัติฝากครรภ์ เสียชีวิตในโรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่า มีอาการช๊อคจากการติดเชื้อเข้ากระแสเลือด สงสัยว่าจะมีการซื้อยาทำแท้งจากเว็บไซต์ขายยาเถื่อนที่ไม่ได้มาตรฐานแล้วนำมาเหน็บช่องคลอด..”

21 เมษายน ที่ฉะเชิงเทรา “หลังพบว่ามีการประกาศขายยาทำแท้งทางเว็บไซต์ ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ทำการล่อซื้อยาสอด 1 ชุดในราคา 3,600 บาท โดยส่งทางไปรษณีย์ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับพัสดุจึงได้ตรวจสอบไปพบว่าส่งมาจากที่ทำการไปษณีย์บางบัว อำเภอบางปะกง จากการสอบสวนพบว่าผู้ส่งเป็นผู้หญิงร่างอ้วนอายุ 42 ปี มาส่งพัสดุในลักษณะนี้เป็นประจำ จึงเข้าควบคุมตัวขณะกำลังส่งยาทางไปรษณีย์ให้ลูกค้า ตำรวจไปตรวจค้นต่อที่บ้าน พบของกลางเป็นยาทำแท้งอีกจำนวนมากมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท..”

22 เมษายน “แม่วัย 29 ปีแจ้งความตำรวจจับสามี เพราะลูกสาววัย13 ปีถูกสามีที่เป็นพ่อเลี้ยงวัย 29 ปีข่มขืนมานานเกือบปี จนลูกสาวตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน หลังแจ้งความกับตำรวจ แม่ของเด็กได้พาลูกสาวไปทำเรื่องขอยุติการตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่ล่วงเลยมามากทำให้มีความเสียงต่อเด็กหญิง แต่แพทย์ได้พยายามเต็มที่เพื่อให้เกิดความปลอดภัย”

ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น หากการช่วยเหลือผู้หญิงที่ประสบปัญหาท้องไม่พร้อม สามารถทำได้ทันเวลา มีบริการที่เข้าถึงได้ และปลอดภัย โดยไม่ควรให้ผู้หญิงเหล่านี้อายุครรภ์มากขึ้น และต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงจนเกิดความสูญเสียตามมามากมาย

ลองมาดูตัวอย่างว่า ระบบที่ทางเครือข่ายอาสา RSA วางไว้ ช่วยได้อย่างไร
ผู้หญิงวัย 37 ปี มาพบแพทย์อาสา RSA เล่าว่าเธอมีอาการเจ็บกลางอกตอนกลางคืนจนนอนไม่ได้ เธอไปพบแพทย์และได้รับการส่งต่อมาโรงพยาบาลศูนย์ แพทย์ตรวจพบว่ามีเธอมีเส้นเลือดหัวใจตีบ ได้รับการรักษาให้ดีขึ้น ด้วยการกินยาวันละ 8 เม็ดที่มียาละลายลิ่มเลือดด้วย ตัวเธอเองแม้เคยฉีดยาคุม แต่ภายหลังก็ไม่ได้คุมกำเนิดเลยเพราะกลัวจะมีผลต่อโรคหัวใจ จนพบว่าตัวเองตั้งครรภ์ เธอไม่พร้อมและกลัวอันตรายที่จะตามมาจากการเป็นโรคหัวใจ ไปปรึกษาหมอโรคหัวใจ หมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์ที่แผนกสูตินรีเวช แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้..

แต่เธอยังโชคดีมีเพื่อนรุ่นน้องแนะนำให้มาพบแพทย์อาสา RSA ผลการตรวจพบว่าอายุครรภ์ 7 สัปดาห์ 6 วัน แม้ไม่มาก แต่เธอยังมีโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงด้วย สภาพจิตใจเธอจึงมีความเครียดและวิตกกังวลสูงในเรื่องทำแท้งกับโรคที่เป็นอยู่ ทีมงาน RSA ได้แนะนำวิธีการดูดสุญญากาศ โดยให้หยุดกินยาละลายลิ่มเลือดก่อน 5 วัน ผลการยุติการตั้งครรภ์เป็นอย่างดี ปลอดภัย ไม่มีปัญหาเรื่องเลือดออก เธอมีหน้าตาที่แจ่มใส สุขภาพจิตดีขึ้นมาก และขอบคุณคุณหมอช่วยเธอแก้ไขปัญหาได้อย่างปลอดภัย

ผู้หญิงคนนี้รอดชีวิตมาได้…แต่คนอื่นๆ ล่ะ จะมีชะตากรรมอย่างไร?
ผู้หญิงท้องอีกรายหนึ่งอายุ 33 ปี ลูกคนแรกปกติอายุ 6 ขวบแล้ว ปกติจะคุมกำเนิดแบบหลั่งภายนอก เธอมีเพศสัมพันธ์ในวันสุดท้ายของรอบเดือน จึงคิดว่าไม่น่าจะท้องเพราะเป็นระยะปลอดภัย เมื่อพบว่าประจำเดือนขาดไป 3 เดือน ไปตรวจปัสสาวะจึงพบว่าท้อง เธอไปฝากท้องที่โรงพยาบาลเอกชน ได้รับการตรวจเลือดคัดกรองกลุ่มโรคดาวน์เมื่ออายุครรภ์ 3 เดือน พบว่าผลเลือดปกติ เมื่อตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนแพทย์ตรวจพบปากแหว่ง โดยแนะนำให้รอพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อยืนยัน แต่เธอไม่สบายใจจึงได้ไปตรวจกับคุณหมอสูติที่คลินิก ซึ่งยืนยันว่าพบปากแหว่งข้างขวา และพบถุงน้ำในปอดด้านซ้ายของตัวอ่อนในครรภ์ เธอจึงไปตรวจยืนยันอีกครั้งที่คณะแพทยศาสตร์ ซึ่งอาจารย์แพทย์ยืนยันว่ามีความผิดปกติทั้ง 2 อย่างจริง

เธออยากรู้ว่า ถ้าลูกคลอดออกมาจะมีภาวะเสี่ยงอะไรบ้าง คำตอบที่ได้รับคือต้องดูการหายใจของทารก ถ้าผิดปกติก็ต้องผ่าตัด ส่วนปากแหว่ง ก็ต้องผ่าตัดตามขั้นตอน เธอถามต่อว่าความผิดปกติทั้ง 2 กรณีนี้ สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ไหม คุณหมอตอบว่าต้องรอผลการตรวจโครโมโซมว่าเป็นกลุ่มโรคดาวน์ไหม ปัญญาอ่อนไหมถึงจะยุติการตั้งครรภ์ได้! แต่..เธอไม่รอผลการตรวจแล้ว เธอต้องการยุติการตั้งครรภ์ สงสารลูกที่ออกมาแล้วต้องรักษา ผ่าตัดแล้วผ่าตัดอีก สามีเธอก็เห็นด้วย เพราะกลัวว่าสุดท้ายก็ต้องสูญเสีย เลี้ยงแล้วก็ตาย และสงสารภรรยาที่ร้องให้มาหลายวันแล้ว เธอและสามีตัดสินใจไปปรึกษาลุงหมอ หลังตรวจอัลตร้าซาวด์ พบว่าอายุครรภ์ 22 สัปดาห์ 4 วัน จึงได้ประสาน 1663 เพื่อส่งต่อไปยังโรงพยาบาลในเครือข่าย RSA และปลอดภัยในที่สุด

อ่านมาถึงตรงนี้ คงมีคำถามลุงหมอว่า แล้วจะเข้าถึงแพทย์อาสา RSA ได้อย่างไร? ไม่ยากครับ เมื่อประสบปัญหาท้องไม่พร้อม ก็ให้โทรไปที่สายปรึกษาท้องไม่พร้อม 1663 ซึ่งจะประสานส่งต่อให้เข้าถึงทีมอาสา RSA ให้ได้บริการที่ปลอดภัย

ลุงหมออยากให้ช่วยกันบอกต่อข้อมูลสำคัญ คือ สายด่วนท้องไม่พร้อม 1663 ให้ผู้หญิงที่ประสบปัญหาได้รู้จักให้แพร่หลายไปทั่วประเทศ ขอบคุณทุกๆ คนนะครับ

ด้วยรักและห่วงใย
ลุงหมอเรืองกิตติ์ ศิริกาญจนกูล

ร่วมติดดาวให้เนื้อหาที่ท่านชื่นชอบ

คลิกที่ดาวเพื่อติดดาวให้เนื้อหานี้

จำนวนดาวเฉลี่ย 5 / 5. จากการติดดาวทั้งหมด 1

ยังไม่มีการติดดาวให้กับเนื้อหานี้... เป็นคนแรกติดดาวให้เนื้อหานี้