เสียงของผู้หญิงเรื่องเล่าจากชีวิตจริง #1 ‘รัก’ ไม่ได้แปลว่าพร้อม

“มันเกิดขึ้นตอนอายุ 22” เธอเอ่ยถึงจุดเริ่มต้นเรื่องการยุติการตั้งครรภ์หรือทำแท้ง เธอบอกว่า ด้วยสาเหตุของความยากจนทำให้แม่ที่ถูกพ่อทิ้งต้องการที่จะให้เธอแต่งงานกับลูกชายของเจ้าของร้านขายของ ซึ่งมีฐานะดีมีอนาคตกว่าการทำสวนและรับจ้างที่ทำอยู่ แต่ชีวิตของเธอเป็นดั่งที่แม่หวังเพียงแค่ 1 ปี เท่านั้น เนื่องจากสามีของเธอมีนิสัยชอบกดขี่ข่มเหงจากการถูกเลี้ยงดูแบบตามใจอย่างลูกคุณหนู ซึ่งไม่ต่างไปจากละครนิยายที่มีพฤติกรรมชอบทำอะไรตามใจและไร้ความรับผิดชอบ

“ตอนตั้งท้องเขาไม่มาดูแลเราเลย ไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น ท้องอยู่ก็ต้องไปอยู่บ้านแม่ ไปปลูกแตงกวาเพื่อเตรียมเงินสำหรับที่จะคลอดลูก ส่วนตัวเขานั้นทั้งกินเหล้าทั้งเที่ยวผู้หญิง พอเงินหมดก็แวะมาเอาเงินกับเราที่บ้านแม่ พูดง่ายๆ คือเงินเราเป็นเงินเขา แต่เงินเขาเป็นเงินเขา” ด้วยเหตุนี้ทำให้บ่อยครั้งมักมีปากเสียงทะเลาะกัน นานเข้าก็หนักขึ้นถึงขั้นลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกาย และมิหนำซ้ำแม่สามีแทนที่จะช่วยเธอกลับเข้าข้างลูกชาย ทุกครั้งที่ทะเลาะจะช่วยล็อคตัวเธอเพื่อให้ลูกชายทำร้าย ซึ่งนั้นทำให้ความคิดที่จะยุติครรภ์ครั้งแรกแวบเข้ามาในความคิด

“ไปซื้อยาขับเลือดมากิน แต่ไม่ออก” เธอว่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่หนักแน่นอันแสดงถึงความทุกข์ที่ไม่ใช่จบเพียงแค่นั้น เธอเล่าถึงปัญหาต่อมาที่ต้องเจออีกว่าในตอนกลางวันเธอต้องดูแลสวนแตงกวาคนเดียวและในตอนกลางคืนต้องรับจ้างกรีดยางเพิ่มเพื่อให้ได้เงินทำคลอด ซึ่งเธอทำอยู่นานจนถึงอายุครรภ์ 8 เดือน

“พอคลอดลูกเขาก็มารับไปอยู่กับเขาที่บ้าน อยู่บ้านเขา 2 เดือน ไม่มีเงินเพราะลูกคลอดก่อนจะเก็บแตงกวาขาย ก็ไม่มีนมให้ลูกกินเขาก็ไม่สนใจ บอกแม่สามีเขาก็บอกว่าไม่มีเพราะเรากินจุไปกินเงินเขาหมดเลยไม่มีให้ค่านมหลาน ทั้งๆ ที่อาหารเราในหนึ่งวันของที่บ้านเขามีให้แค่หมูปิ้ง 3 ไม้ ต้องแบ่งกินเช้า กลางวัน เย็น”

“ในสถานะความเป็นแม่ เห็นลูกร้องหิวนม คิดอะไรไม่ออกก็ตัดสินใจเป็นขโมย ไปเป็นมิจฉาชีพกับกลุ่มคนละแวกบ้านที่เขาไม่มีจะกินเหมือนกัน ตอนไปทำก็ฝากลูกไว้กับแฟนเพื่อนแล้วไปร่วมขบวนการกับเขา” ได้เงินมาหลักพันบาทพอเป็นทุนในการรอพักฟื้นเพื่อกลับไปทำงานให้มีเงินเลี้ยงลูก และเพื่อไม่ให้กลับไปซ้ำรอยประวัติศาสตร์เดิม เธอจึงเลือกที่จะคุมกำเนิดทุกวิถีทางที่ทำได้ในตอนนั้น ทว่าจนแล้วจนรอด 2 เดือนถัดมาเธอก็ตั้งท้องอีกครั้ง

“เราเป็นเหมือนภาชนะรองรับอารมณ์ เพราะเขามีอารมณ์ทางเพศบ่อยมาก ป้องกันยังไงมันก็พลาด มันไม่มีอะไรคุมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และทุกครั้งก็จะชอบทุบตี คือรับผิดชอบแต่ที่จะทำให้เกิด แต่ไม่รับผิดชอบในตัวเราเราอยากหนีแต่ก็หนีไม่ได้ ตอนนั้นไม่รู้กฎหมายบอกจะแจ้งตำรวจจับเพราะเมียเป็นสิทธิของผัว ก็ต้องจำใจอยู่”

ขอขอบคุณเจ้าของเรื่อง และอนุญาตให้มีการเผยแพร่
ที่มา : “ความทุกข์ที่ไม่มีกฎหมายรองรับ” เปิดใจ “หรั่ง-สุภาพร” จากสาวทำแท้งสู่จิตอาสาปรึกษาท้องไม่พร้อม https://www.posttoday.com/social/general/580407

ร่วมติดดาวให้เนื้อหาที่ท่านชื่นชอบ

คลิกที่ดาวเพื่อติดดาวให้เนื้อหานี้

จำนวนดาวเฉลี่ย 4.4 / 5. จากการติดดาวทั้งหมด 13

ยังไม่มีการติดดาวให้กับเนื้อหานี้... เป็นคนแรกติดดาวให้เนื้อหานี้