ทำหมันแล้วเปลี่ยนใจ อยากมีลูกอีก ทำได้หรือไม่
การทำหมันทั้งชายและหญิงเป็นวิธีคุมกำเนิดถาวรที่หลายคนเลือก เพราะมั่นใจว่าจะไม่ต้องการมีลูกอีก แต่เมื่อเวลาผ่านไป บางคนอาจเปลี่ยนใจ และอยากกลับมามีลูกอีก
ย้อนกลับการทำหมัน ทำได้ไหม
ทำได้บางกรณี แต่ไม่การันตีว่าจะสำเร็จ
ทำหมันชาย (vasectomy) มีโอกาสผ่าตัดเชื่อมท่อนำอสุจิกลับมาได้
ทำหมันหญิง (tubal ligation) การผ่าตัดเชื่อมท่อนำไข่กลับทำได้ยากกว่า และสำเร็จน้อยกว่าฝ่ายชาย
ความสำเร็จของการผ่าตัดขึ้นอยู่กับ
อายุของผู้ทำหมัน
ระยะเวลาที่ทำหมันมาแล้ว
เทคนิคที่ใช้ตอนทำหมันครั้งแรก
ความแข็งแรงของอวัยวะสืบพันธุ์ในปัจจุบัน
หากย้อนกลับไม่ได้ ยังมีทางเลือกอื่นไหม
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใช้ได้ในกรณีทำหมันแล้ว
ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านมีบุตรยาก เพื่อประเมินโอกาสสำเร็จ
ข้อคิดก่อนทำหมัน
การทำหมันควรเป็นการตัดสินใจที่แน่ชัด ผ่านการพูดคุยกับแพทย์และคู่ชีวิตหากยังไม่แน่ใจ ควรเลือกวิธีคุมกำเนิดที่ไม่ถาวรก่อน เช่น ยาฝัง ห่วงอนามัย หรือยาคุม
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ติดต่อเราได้ที่นี่...
ข้อดีและข้อเสียของการทำหมันถาวร
การทำหมันเป็นวิธีคุมกำเนิดแบบถาวร เหมาะกับผู้ที่แน่ใจว่าจะไม่มีบุตรอีก โดยมีทั้งข้อดีและข้อควรระวังที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ
ข้อดีของการทำหมัน
คุมกำเนิดได้ถาวร ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องใช้ถุงยาง
ลดความกังวล เรื่องพลาดลืมกินยา หรือการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ
ไม่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศ หรือการมีประจำเดือน
ประหยัดในระยะยาว ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำทุกเดือน
ข้อเสียและข้อควรระวัง
ไม่สามารถมีลูกได้อีก ย้อนกลับได้ยากหรือไม่ได้เลย
อาจเสียใจภายหลัง หากเปลี่ยนใจหรือสถานการณ์ชีวิตเปลี่ยน
ไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เหมาะกับใคร
คู่รักที่มั่นใจว่าจะไม่ต้องการมีลูกอีก
ผู้ที่มีภาวะสุขภาพที่ไม่เหมาะต่อการตั้งครรภ์
ผู้ที่เคยตั้งครรภ์ไม่พร้อมและต้องการป้องกันซ้ำ
การทำหมันควรทำโดยสมัครใจ และผ่านการพูดคุยกับแพทย์อย่างรอบด้าน
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ติดต่อเราได้ที่นี่ ระบบปรึกษาท้องไม่พร้อม RSA Online : https://abortion.rsathai.orgหรือ Line Official : @rsathai , Inbox...
คู่รักวางแผนชีวิต ทำหมันใคร…เลือกอย่างไรให้เหมาะ
เมื่อคู่รักตัดสินใจแน่ชัดว่าจะไม่ต้องการมีบุตรอีก การทำหมันคือหนึ่งในวิธีคุมกำเนิดแบบถาวรที่มีประสิทธิภาพสูง แต่คำถามคือ ควรทำหมัน “ฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชาย” แบบไหนเหมาะและปลอดภัยกว่ากัน
ทำหมันชาย (vasectomy)
เป็นการตัดและปิดท่อนำอสุจิ
ใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องวางยาสลบ
ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน ฟื้นตัวเร็ว
ความเสี่ยงน้อยและภาวะแทรกซ้อนต่ำ
ยังมีการหลั่งน้ำเชื้อปกติ แต่ไม่มีอสุจิ
ทำหมันหญิง (tubal ligation)
เป็นการผูกหรือปิดท่อนำไข่
ต้องผ่าตัดเล็ก ใช้วิธีวางยาสลบหรือบล็อกหลัง
กระบวนการซับซ้อนกว่า ฟื้นตัวช้ากว่า
มีความเสี่ยงจากการดมยาสลบหรือผ่าตัดมากกว่า
จะเลือกทำหมันฝ่ายไหนดี
ถ้าคู่รักมองเรื่อง ความเสี่ยงและความสะดวก ทำหมันชายมักเหมาะกว่า
ถ้าฝ่ายหญิงเข้ารับการผ่าตัดคลอดอยู่แล้ว อาจพิจารณาทำหมันหญิงไปพร้อมกันได้
การพูดคุยร่วมกันของทั้งสองฝ่ายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
การทำหมันคือการตัดสินใจระยะยาว ควรแน่ใจว่าไม่มีแผนจะมีลูกอีก และควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ติดต่อเราได้ที่นี่ ระบบปรึกษาท้องไม่พร้อม RSA Online :...
ใส่ห่วงอนามัยแล้ว มีผลข้างเคียงหรือไม่
ห่วงอนามัย หรือ IUD เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้ได้นาน แต่หลายคนอาจเกิดข้อสงสัยว่าใส่ห่วงแล้วจะมีผลข้างเคียงหรือไม่
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ (แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็น)
ปวดท้องน้อยหรือปวดเกร็ง คล้ายปวดประจำเดือน ในช่วง 1-3 วันแรกหลังใส่
เลือดออกกระปริบกระปรอย หรือประจำเดือนมามากกว่าปกติ โดยเฉพาะห่วงชนิดไม่มีฮอร์โมน
อาการเวียนหัว อ่อนเพลียเล็กน้อย เป็นผลจากการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอม
สิวขึ้นหรืออารมณ์แปรปรวน ในกรณีใช้ห่วงชนิดมีฮอร์โมน (พบได้น้อย)
อาการผิดปกติที่ควรไปพบแพทย์
เลือดออกมากผิดปกติ
ปวดท้องรุนแรง
มีไข้ หนาวสั่น หรือตกขาวมีกลิ่น
คลำไม่เจอสายห่วง หรือรู้สึกว่าห่วงหลุด
การดูแลตัวเองหลังใส่ห่วง
งดเพศสัมพันธ์ในช่วง 7 วันแรก
หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือออกแรงมากใน 1-2 วัน
ตรวจติดตามตามนัดเพื่อประเมินตำแหน่งของห่วง
โดยรวมแล้ว...
ข้อดีและข้อเสียของห่วงอนามัยที่ควรรู้
ข้อดีของห่วงอนามัย
คุมกำเนิดได้นาน อยู่ได้นาน 3-10 ปี โดยไม่ต้องดูแลบ่อย
ประสิทธิภาพสูง มากกว่า 99% หากใส่อย่างถูกวิธี
สะดวก ใส่ครั้งเดียว ไม่ต้องกินยาทุกวันหรือพึ่งพาความสม่ำเสมอ
หยุดใช้เมื่อไหร่ก็ได้ เมื่อถอดห่วงแล้วสามารถกลับมามีลูกได้ทันที
ประหยัดระยะยาว แม้มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นสูง แต่ไม่ต้องซื้อซ้ำทุกเดือน
ข้อเสียของห่วงอนามัย
ไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จำเป็นต้องใช้ถุงยางร่วมด้วย
มีผลข้างเคียงบางกรณี เช่น ปวดท้อง เลือดออกมากในช่วงแรก โดยเฉพาะชนิดไม่มีฮอร์โมน
ต้องใส่โดยแพทย์ ไม่สามารถใส่หรือถอดด้วยตัวเองได้
บางคนอาจรู้สึกไม่สบายตัว หรือมีอาการปวดท้องน้อยจากการที่ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอม
เสี่ยงต่อการเคลื่อนตำแหน่งของห่วง หากไม่ได้ตรวจติดตาม อาจลดประสิทธิภาพในการคุมกำเนิด
ข้อแนะนำก่อนเลือกใช้ห่วงอนามัย
ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินว่าเหมาะกับร่างกายของคุณหรือไม่
เลือกชนิดที่เหมาะกับลักษณะรอบเดือนและสภาวะสุขภาพ เช่น ถ้ามีประจำเดือนมากอยู่แล้ว...
ห่วงอนามัยมีกี่ประเภท และควรเลือกแบบไหน
ห่วงอนามัย หรือ IUD (Intrauterine Device) เป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่แพทย์ใส่เข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ โดยสามารถใช้ได้นานตั้งแต่ 3 ปีไปจนถึง 10 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของห่วงอนามัย
ประเภทของห่วงอนามัย
ห่วงอนามัยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
ห่วงอนามัยชนิดมีฮอร์โมน (Hormonal IUD)
ปล่อยฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนอย่างต่อเนื่อง ทำให้มูกที่ปากมดลูกข้นขึ้น ป้องกันไม่ให้อสุจิเข้าถึงไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง ลดโอกาสที่ไข่จะฝังตัว อายุการใช้งาน: 3-7...
กินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ จะเป็นอย่างไร
ยาคุมฉุกเฉินออกแบบมาเพื่อใช้ เฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น ไม่ใช่ยาคุมแบบใช้ประจำ และไม่ควรใช้ต่อเนื่องหรือซ้ำบ่อยเกินไป หากกินบ่อย อาจเกิดผลกระทบต่อร่างกายดังนี้
รอบเดือนคลาดเคลื่อน หรือมาผิดปกติ
อาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ ปวดหัว เจ็บหน้าอก
ระบบฮอร์โมนแปรปรวน ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว
ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเกิน 2 ครั้งต่อเดือน เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีปริมาณฮอร์โมนมากกว่ายาคุมปกติ ยิ่งกินมาก ยิ่งได้รับฮอร์โมนสูงมาก และอาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกายได้
ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
ถุงยางอนามัย ใช้ง่าย ป้องกันทั้งการตั้งครรภ์และโรคติดต่อ
ยาคุมเม็ด ยาฝัง ยาฉีด หรือห่วงอนามัย
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะกับร่างกายของคุณที่สุด
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ติดต่อเราได้ที่นี่...
ยาคุมฉุกเฉินควรใช้เมื่อไหร่
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน เป็นยาที่ใช้ในกรณีมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือป้องกันแล้วแต่ผิดพลาด เช่น ถุงยางรั่วหรือหลุด ลืมกินยาคุมปกติ
ยาคุมฉุกเฉินมี 2 แบบ
แบบ 1 เม็ด กินทันทีหรือภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
แบบ 2 เม็ด กินได้ 2 วิธีเม็ดแรกทันทีหรือภายใน 72 ชั่วโมง เม็ดที่สองหลังจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง
กิน 2...
หลั่งนอกก็ทัน แต่ทำไมท้อง
หลายคนเชื่อว่า "ถ้าไม่หลั่งข้างใน ก็ไม่ท้อง" แต่ความจริงคือ ยังมีโอกาสท้องได้ แม้จะหลั่งนอกทัน เพราะในน้ำหล่อลื่นที่ออกมาก่อนการหลั่ง อาจมีอสุจิปะปนอยู่ และอสุจิเหล่านั้นก็สามารถเดินทางไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทันที ยิ่งไปกว่านั้น การควบคุมการหลั่งอย่างแม่นยำไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในสถานการณ์จริงที่อาจมีความตื่นเต้นหรือควบคุมตัวเองไม่ได้ทัน ดังนั้น การหลั่งนอกไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่ปลอดภัย และไม่ควรใช้เป็นวิธีคุมกำเนิดหากคุณยังไม่พร้อมจะมีบุตร
วิธีที่ปลอดภัยกว่าคือ ถุงยางอนามัย, ยาคุมเม็ด, ยาฝัง, ห่วงอนามัย
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ติดต่อเราได้ที่นี่ ระบบปรึกษาท้องไม่พร้อม RSA Online :...
การนับวันปลอดภัยช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้จริงหรือไม่
การนับวันปลอดภัยช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้จริงหรือไม่
การนับวันปลอดภัย เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบธรรมชาติที่หลายคนใช้ โดยการหลีกเลี่ยงเพศสัมพันธ์ในช่วงที่คาดว่าเป็นวันไข่ตก แต่ในความเป็นจริง วิธีนี้มี ความเสี่ยงสูง เพราะ
รอบเดือนของแต่ละคนไม่เท่ากันในแต่ละเดือน
ปัจจัยอย่างความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือร่างกายแปรปรวน ทำให้วันไข่ตกคลาดเคลื่อนได้ง่าย
อสุจิสามารถมีชีวิตอยู่ในร่างกายได้นานถึง 5 วัน
ทั้งหมดนี้ทำให้การนับวันปลอดภัย ไม่ใช่วิธีคุมกำเนิด ป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ได้ หากคุณต้องการป้องกันการตั้งครรภ์อย่างจริงจัง แนะนำให้ใช้
ถุงยางอนามัย
ยาคุมแบบเม็ด ยาฝัง ยาฉีด หรือห่วงอนามัย
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเอง
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ติดต่อเราได้ที่นี่ ระบบปรึกษาท้องไม่พร้อม RSA Online :...