ประชุมเรื่องทำแท้ง 1
วาทะเด่นของงานประชุมครั้งนี้เกิดจากการตั้งคำถามต่อตัวท่านเองว่า หากท่านเกิดมีแฟนแล้วเกิดไปมีเพศสัมพันธ์กัน ก็จะถูกครหาว่า “มีเพศสัมพันธ์หลังวัยอันควร” เห็นไหมว่า ผู้หญิงโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
วันที่ 9 กันยายน 2550
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ วันสุดท้ายของสัปดาห์ที่ 18 นับถอยหลังต่อไปก็พบว่ายังเหลืออีก 66 วันเท่านั้น ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ผมกลับบ้านเพื่อไปเป็นส่วนร่วมในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการณ์เรื่องการดูแลสตรีแท้งบุตร ที่สงขลา โดยกองอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย เป็นเจ้าภาพ ครั้งนี้โรงพยาบาลหาดใหญ่และภาควิชาของผมเป็นเจ้าภาพร่วมด้วย เลยอยากจะเขียนเป็นตอนๆ ไปครับ เช้าวันอังคารผมไป round เช้าตามปกติ อานีต้ายังไม่มาทำงาน...
non-technical skill ภาค ๒ กับการฟังเรื่องความรัก
วิ่งสิครับวิ่ง หากคิดอะไรไม่ออกก็ขอให้ออกไปวิ่ง เมื่อวานในช่วงที่ฝึกเป็นครูสำหรับเตรียมพร้อมเรื่องการสอนที่ไม่ใช่เรื่องวิชาการแพทย์จ๋าๆจากครูนักบินนั้น ผมติดใจเรื่อง “การตั้งคำถาม”
ถามเพื่อให้ผู้เรียนคิด คำตอบที่ได้มาก็ต่อยอดคำถาม ถามเพื่อตะล่อมให้ได้คำตอบซึ่งจะได้ตรงกับจุดประสงค์ของการเรียนรู้ก่อน เลิกจากการเรียนนั้น ครูก็แพล็มออกมาว่า ในวันนี้จะต้องมีช่วงของการฝึกวางแผนการสอน โดยต้องเขียนเป้าหมายและจุดประสงค์ให้ชัดเจน
ชัดเจนยังไงเหรอ มันต้องเฉพาะเจาะจง วัดผลได้จริง ทำได้จริงๆ เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ต้องการทำจริงๆ และเหมาะสมกับเวลา เอาเหอะ อย่าได้ใส่ใจตอนนี้ เพราะผมเองก็คงยังไม่เก่งพอที่จะสรุปออกมาเป็นคำสวยๆ หรือทำให้เป็นเรื่องง่ายๆ ที่สำคัญ ผมยังคิดไม่ออกด้วยซ้ำ ว่าจะทำเรื่องอะไรดี...
หมอคะ…หนูกลัว
“มีอะไรไหมครับ พอดีผมจะรีบปิดร้าน เร่งด่วนมากไหม” ผมทักเธอออกไปเพราะว่าจะต้องรีบไปประชุมเตรียมจัดกิจกรรมให้กับแพทย์ประจำบ้านรุ่นใหม่ที่จะขึ้นเรียนและทำงานในเดือนกรกฎาคมนี้ “หนูจะมาปรึกษาหมอเรื่องท้องไม่พร้อมค่ะ” เธอคนที่ว่านี้ มายืนอยู่ที่เคาเตอร์หน้าห้องตรวจของผมอยู่ระยะหนึ่งแล้ว แต่เลือกที่จะไม่เข้าไปพบผมข้างในห้องตรวจ ซึ่งผมก็ไม่ทราบเหตุผลของเธอ “เอิ่ม..ผมต้องขอโทษจริงๆนะครับ พอดีต้องรีบปิดร้าน เพราะมีประชุมต่อ อีกอย่าง ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ทำแท้งแล้วนะครับ ถ้าหากจะถามว่าทำที่ไหน หมอจะแนะนำให้” ผมดูนาฬิกาซึ่งเวลานั้นคือทุ่มครึ่ง “แต่หมอคะ หนูไม่รู้จะตัดสินใจยังไง ว่าจะใช้วิธีไหนดีค่ะ” ได้ยินแบบนี้ ผมต้องหยุด นั่นแสดงว่าเธอคงได้ไปพบหมอจากที่ไหนมาสักแห่งแล้ว “แล้วเธอว่ายังไงล่ะ”...
โรงพยาบาลคอกควาย
พอจะได้แก้ไขก็มีการประท้วง น่าตลกที่ว่าบางครั้งการประท้วงเกิดจากคนๆเดียว (ที่ไม่มีโอกาสทำให้ภรรยาท้องได้ ไม่เคยมีโอกาสเลี้ยงเด็กดาวน์ ไม่มีโอกาสดูแลคนไข้แท้งติดเชื้ออาการปางตาย) การตัดสินปัญหาก็ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล
วันที่ 27 มิถุนายน 2550
วันนี้เป็นวันพุธกลางสัปดาห์ ตื่นขึ้นมาไม่รู้กี่โมง แต่นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่นานจนนาฬิกาปลุก กว่าจะออกจากที่พักก็ 7.15 น. รถราพลุกพล่านทีเดียว วันนี้ทำงานในคลินิกทั้งเช้าและบ่าย คนไข้ไม่ค่อยมาก ช่วงเช้าเราเปิด 4 ห้อง (สืบเนื่องจากการประชุมเมื่อวาน) สามารถเลิกคลินิกได้ภายในเวลา 11.30 น. ครูหาญเลยพอใจ
ตอนเที่ยงผมแวะไปที่ห้องสมุดเพื่อยืมหนังสือมาอ่านหน่อย วันนี้ยืมหนังสือ...
ซุปร้านเจ๊ ภาค ๒
แล้วผมก็พ่ายแพ้ต่อความต้องการของตัวเองอีกหนเมื่อเดินผ่านหน้าหม้อนึ่งซุปของร้านเจ๊จริงสิ ยังคงเหลือซุปมะระตุ๋นอีกอย่างหนึ่งสินะที่ยังไม่ได้กิน
“เจ๊ครับ ซุปมะระกินได้ยังล่ะวันนี้” ผมนึกถึงข้าวสวยร้อนๆ ข้าวขาวขัดสีขัดรำออกเสียจนแทบจะเหลือเพียงแป้งขาวๆ ไร้วิตามิน แต่จะไปแคร์ทำไมล่ะ ในเมื่อผมต้องการเพียงแค่การกินข้าวแกล้มซุปมะระเท่านั้นเองไม่ใช่หรือ ในยามนี้ คงไม่เรียกหาข้าวกล้อง ข้าวหอมนิล หรือกระทั่งสังข์หยดเมืองพัทลุง ให้มันเสียจริต
“กินได้แล้วหมอ อันที่จริงถ้ารออีกนิดก็ดี แต่ถ้าลื้อหิวมาก อั๊วจะเอาออกมาต้มให้ก่อน” แกคงเห็นผมอยากกินอยู่หลายวันแล้ว“หมอรู้มั้ย ซุปแบบนี้ ถ้าเราตุ๋น เนื้อหมูมันจะนุ่ม แต่ถ้าเราต้ม เนื้อหมูมันจะแข็ง” เจ๊แกขยับตัวลงมานั่งเก้าอี้คุยกับผม วันนี้ผมกินตั้งแต่...
ไม่มีทางเท่ากัน – ท้องไม่พร้อม
“เมฆบนฟ้าช่างน่ามอง” ไม่ใช่สิ ผมควรจะบอกว่า เมฆที่อยู่ต่ำลงไปนั้นช่างน่ามอง ไหนจะเมฆที่เรียงตัวเป็นแถวเหมือนเด็กประถมเข้าแถวหน้าเสาธง วันนี้แถบเพชรบุรีมีอย่างน้อยก็ ๒ แถว ครั้นพอเข้ากรุงเทพฯ ช่วงสายวันนี้ไม่มีเมฆ แต่ชั้นของบรรยากาศทำให้เห็นได้เลยว่า ฝุ่นพีเอ็ม ๒.๕ นั้น มันน่ากลัวขนาดไหน
ผมมากรุงเทพฯ เพื่อขึ้นเวทีพูดเรื่อง “ทำแท้ง” เนื่องในวันทำแท้งสากล มีเวลาให้พูดเพียง ๔๕ นาที ด้วยเนื้อหาที่เป็นแอปสแตร็กหน่อยๆ นั่นคือ “แท้งคือเรื่องของสุขภาพ”
เตรียมตัวนานเหมือนกันนะครับ...
ครูแพทย์กับปัญหาการทำแท้ง
นี่เป็นบทความแรกของผมที่ปรากฏในสารสูตินรีแพทย์สัมพันธ์ ว่าด้วยเรื่องการทำแท้งครับ
เมื่อวันที่ 20-22 กุมภาพันธ์ 2549 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปเข้าร่วมประชุมประเมินผล “โครงการดูแลสุขภาพหญิงเกี่ยวกับการแท้ง” ซึ่งจัดโดยกองอนามัยการเจริญพันธุ์ ร่วมกับราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ณ Cabbages & Condoms Resort เมืองพัทยา
ในงานประชุมครั้งนี้ เราได้พบปะพูดคุยกันถึงเรื่องราวข่าวดี ที่พวกเราหมอสูติทั้งหลายเฝ้ารอมาเป็นเวลานาน นั่นก็คือ การมีราชกิจจานุเบกษาลงประกาศข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ ตามมาตรา 305...
ทำแท้ง และซุปร้านเจ๊ ภาค ๓
เมื่อวานครับ... “แม่รู้สึกไม่ค่อยสบายเลยพ่อ ทำข้าวเย็นไม่ไหว และไม่อยากขับรถออกไปกินนอกบ้าน” เสียงคนสำคัญบ่นให้ฟัง ผมอังมือไปที่แขนและหน้าผากเธอ ก็เย็นเฉียบ ออใช่ เมียเพิ่งขับรถเข้ามา งั้นก็เอามือล้วงไปยังหลังเสื้อ สอดมือเข้าไปตามแผ่นหลัง กะจะปลดตะขอยกทรงก็กลัวถูกด่า
“ก็ไม่ร้อนนะแม่” ผมทำตัวเป็นปรอทวัดไข้ “เอางี้ บอกลูกสาวว่าป่วย ให้ทั้งคู่จัดการอาหารให้แม่ไปเลยนะ” ผมเสนอ เมียจ้องหน้า เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง “ไม่ต้องงง บอกลูก ว่าแม่ป่วย” ผมตัดบท แล้วขับรถออกไปคลินิก
วันนี้แปลก...
เราไม่ได้อยากสนับสนุนให้มีคนมาทำแท้งเยอะๆ แต่เราอยากให้ช่วยหันมามองกันว่าจะช่วยเหลือคนที่ท้องไม่พร้อมได้อย่างไร
เรื่องเล่าจากห้องน้ำสาธารณะเรื่องที่สอง “โรงแรม”
อย่างที่บอกไปเมื่อวาน ว่าผมขึ้นมากรุงเทพฯ ครั้งนี้เพื่อประชุมเรื่องการจัดบริการทำแท้ง งานนี้ถูกจัดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในถนนสุขุมวิท ผมได้ร่วมเป็นวิทยากรพูดเรื่องการใช้หลอดดูดสุญญากาศแทนเหล็กขูดแบบโบราณ เนื้อหาในการประชุมมันดีมาก เริ่มจากภาพรวมของการทำแท้ง อันตรายจากการทำแท้ง มุมมองของผู้ที่เจอคนมาขอทำแท้ง
อันหลังนี่น่าสนใจ เพราะบรรดาน้องๆ หมอและพยาบาลที่มาร่วมอบรมนั้น บางคนอาจจะยังรู้สึกกระอักกระอ่วน ผมสงสัยว่าพวกเขาอาจถูกขอให้มาเพราะพี่ๆ ไม่อยากมาก็เป็นได้
ในช่วงก่อนเที่ยงนั้นทีมผู้บรรยายได้นำแบบสอบถามขึ้นมาให้ทุกคนลองทำดู มันคือกรณีศึกษา ๗ ข้อ อยากลองทำดูไหมครับ ว่าอ่านแล้วรู้สึกว่าผู้หญิงทั้ง ๗ คนนั้นสมควรได้รับการทำแท้งให้ตามการร้องขอของเธอหรือไม่
๑. “หนู”...
สิทธิ์ของการทำแท้ง
บทเรียนจากการใช้ข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ ตามมาตรา ๓๐๕ แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๔๘ นี่ก็ครบขวบปีที่สองแล้วสำหรับข้อบังคับที่ส่งผลต่ออนามัยการเจริญพันธุ์ของสตรีไทยฉบับนี้ ผมก็ยังไม่วายที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสมาชิกทุกท่านอีกเช่นเคย ก่อนอื่นขออนุญาตทบทวนกันสักนิดว่า ในมาตรา 305 ที่เราๆพยายามทำความคุ้นเคยกันอยู่นั้นประกอบด้วย 2 วรรค วรรคแรกก็คือ การยุติการตั้งครรภ์ที่ครรภ์นั้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมารดา อย่าลืมนะครับว่า คำว่าสุขภาพตามนิยามขององค์การอนามัยโลกนั้น รวมถึงสุขภาพกายและใจ
การใช้ข้อบังคับแพทยสภาฯนั้น ระบุว่า ในกรณีสุขภาพทางจิตนั้น แพทย์สามารถให้การวินิจฉัยได้เลยโดยที่ไม่ต้องปรึกษาจิตแพทย์ (อย่าลืมว่าเราก็จบพบ.มาเหมือนกัน) และในกรณีที่ทารกในครรภ์มีความพิการรุนแรงนั้น ในข้อบังคับฯก็ระบุว่า...