พบสถิติปี 2560 นักเรียนท้องในวัยเรียนพุ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 75 ทำให้กลุ่มเครือข่ายเตรียมยื่นเรื่องเสนอหาแนวทางช่วยเหลือ เด็กท้องในวัยเรียนต่อกระทรวงศึกษาธิการ
วันนี้ (2 พ.ย.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถิติปี 2560 มีผู้รับบริการโทรเข้ามาที่สายด่วนโทร 1663 จำนวน กว่า 4 หมื่นราย แบ่งเป็นปรึกษาเรื่องเอดส์ ร้อยละ 58 และปรึกษาเรื่องท้องไม่พร้อม ร้อยละ 41.67 หรือประมาณ 18,507 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2559 สถิติอยู่ที่ 13,465 ราย ปีนี้แบ่งเป็นคนที่ตั้งท้องแล้วเพิ่มขึ้น ร้อยละ 75 ส่วนใหญ่คนที่ตั้งท้องมีอายุต่ำกว่า 20 ปี สาเหตุจากไม่คุมกำเนิด ส่วนวัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อม มีแนวโน้มปรึกษากับ แม่ มากที่สุด รองลงมาคือญาติพี่น้อง และ เพื่อน อันดับสุดท้ายคือ ครู โดยข้อมูลทั้งหมด ถูกนำมาเปิดเผยในการแถลงข่าวในหัวข้อ “เด็กที่ท้องในวัยเรียน อยู่ในวิกฤติ สถานศึกษาหยุดซ้ำเติม” โดยนายสมวงศ์ อุไรวัฒนา หัวหน้าโครงการสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม ระบุว่าตัวเลขเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าสถานศึกษาจำนวนหนึ่งไม่ส่งสัญญาณช่วยเหลือเด็ก แต่กลับมองว่าเป็นอุปสรรคต่อการเรียน และให้เด็กออกจากสถานศึกษา ย้ายที่เรียน และสั่งพักการเรียน
สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้น กลุ่มภาคีเครือข่าย เตรียมสนอ ไปยังกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อวางแนวทางปฏิบัติสำหรับทุกสถานศึกษา คือ ห้ามไล่เด็กออก หรือให้ย้ายโรงเรียน โดยที่เด็กหรือผู้ปกครองไม่สมัครใจ การวางแผนเรียนต่อเป็นสิทธิของนักเรียน จัดการเรียนการสอนให้เหมาะสม ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่เป็นมิตร เป็นประโยชน์กับเด็กที่ประสบปัญหามากที่สุด และผู้บริหารสถานศึกษา และ ครู ควรทำความเข้าใจในทัศนะเด็กที่กำลังเผชิญปัญหา ครูต้องไม่เป็นผู้ซ้ำเติม แต่ต้องมีบทบาทช่วยเหลือ
ที่มา และภาพจาก : https://www.pptvhd36.com/