หากประจำเดือนขาด หรือมาช้ากว่าปกติ คุณอาจรู้สึกกังวลว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเพราะความเครียด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือปัจจัยอื่น ๆ มาดูกันว่าคุณควรทำอย่างไร
1. ตรวจสอบว่าเลยกำหนดไปกี่วันแล้ว
- หากประจำเดือนขาดไป 1-2 วัน อาจเป็นเรื่องปกติ ไม่จำเป็นต้องกังวล
- หากขาดไป มากกว่า 7 วัน ควรเริ่มพิจารณาปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุ
- หากขาดไป มากกว่า 2-3 เดือน และไม่ได้ตั้งครรภ์ ควรพบแพทย์
2. ตรวจการตั้งครรภ์ หากมีโอกาสเสี่ยง
- หากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ควร ใช้ที่ตรวจครรภ์ หลังจากขาดประจำเดือน 7-14 วัน เพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำ
- หากผลตรวจเป็น ขีดเดียว และประจำเดือนยังไม่มา อาจเกิดจากปัจจัยอื่น หรือตรวจครรภ์ซ้ำ
- หากผลตรวจเป็น 2 ขีด (ตั้งครรภ์) ควรพบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษา
3. สาเหตุอื่น ๆ ที่อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ความเครียด ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเมื่อคุณมีความกังวลหรือเครียดมาก
- การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก น้ำหนักลดลงมากเกินไป หรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลต่อรอบเดือน
- การออกกำลังกายหนักเกินไป ส่งผลให้ฮอร์โมนแปรปรวน
- ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล (PCOS) เช่น ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ
- ผลข้างเคียงจากยาหรือการใช้ยาคุมกำเนิด
หากไม่ได้ตั้งครรภ์ และขาดประจำเดือนนานกว่า 3 เดือน ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ
4. วิธีช่วยให้ประจำเดือนมาตามปกติ
- ผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำสมาธิ หรือโยคะ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม แต่ไม่หักโหม
- หากใช้ยาคุมกำเนิด ควรตรวจสอบว่าทานต่อเนื่องถูกต้องหรือไม่
- หากมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก ลองปรับอาหารและการออกกำลังกายให้เหมาะสม
5. เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
- ประจำเดือนขาด มากกว่า 3 เดือน โดยไม่ได้ตั้งครรภ์
- มีอาการผิดปกติอื่น ๆ เช่น ปวดท้องรุนแรง น้ำหนักเปลี่ยนแปลงเร็วผิดปกติ ขนขึ้นมากผิดปกติ หรือเป็นสิวบ่อย
- รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอเป็นเวลานาน
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับประจำเดือน หรือสุขภาพทางเพศ ติดต่อเราได้ที่นี่ RSA Online : https://abortion.rsathai.org
Line Official : @rsathai , Inbox Facebook Page : rsathai
บริการให้คำปรึกษาออนไลน์ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00-19.00 น.
“ถ้าประจำเดือนยังไม่มา อย่าตื่นตระหนก ตรวจสอบตัวเอง และขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้”