การใช้แอปติดตามรอบเดือน ช่วยป้องกันท้องไม่พร้อมได้จริงหรือไม่
ปัจจุบันมี แอปพลิเคชันติดตามรอบเดือน ที่ช่วยคำนวณวันไข่ตก และแสดงช่วงที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูงและต่ำ หลายคนใช้แอปเหล่านี้เป็น ทางเลือกในการคุมกำเนิด แทนการใช้ฮอร์โมนหรือถุงยางอนามัย แต่ แอปเหล่านี้สามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้จริงหรือไม่
1. แอปติดตามรอบเดือนคืออะไร และทำงานอย่างไร
แอปเหล่านี้ใช้ ข้อมูลเกี่ยวกับรอบเดือนของผู้ใช้ เพื่อคำนวณว่า
- วันไหนเป็น วันไข่ตก หรือช่วงที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูง
- วันไหนเป็น ช่วงปลอดภัย ที่มีโอกาสตั้งครรภ์ต่ำ
โดยแอปจะให้ผู้ใช้ บันทึกวันแรกของประจำเดือนในแต่ละรอบ และคำนวณระยะห่างระหว่างรอบเดือน
2. การคุมกำเนิดด้วยการนับวันปลอดภัยมีประสิทธิภาพแค่ไหน
ความแม่นยำของแอปขึ้นอยู่กับความสม่ำเสมอของรอบเดือน หากรอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ การคำนวณวันไข่ตกอาจคลาดเคลื่อน ทำให้โอกาสตั้งครรภ์สูงขึ้นได้ มีวิธีคุมกำเนิดทีมีประสิทธิภาพหลายวิธี
วิธีคุมกำเนิด | อัตราประสิทธิภาพ (เมื่อใช้อย่างถูกต้อง) |
ถุงยางอนามัย | 85-98% |
ยาคุมกำเนิด | มากกว่า 99% |
ยาฝังคุมกำเนิด | มากกว่า 99% |
ห่วงอนามัย (IUD) | มากกว่า 99% |
ข้อสรุป:
- การใช้แอปติดตามรอบเดือน ยังมีความเสี่ยงสูงกว่าวิธีคุมกำเนิดอื่นๆ
- หากรอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอหรือมีความเครียด อาจทำให้ไข่ตกไม่ตรงกับวันที่แอปคำนวณ
3. ข้อดีและข้อจำกัดของการใช้แอปติดตามรอบเดือน
ข้อดี
- ช่วยให้เข้าใจรอบเดือนของตัวเอง
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใช้ฮอร์โมน
- ไม่มีผลข้างเคียงต่อร่างกาย
ข้อจำกัด
- ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้
- ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ใช้ไม่ได้ผลหากรอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
แอปติดตามรอบเดือนช่วยคุมกำเนิดได้จริงหรือไม่
- ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% โดยเฉพาะหากรอบเดือนมาไม่ตรงเวลา
- ควรใช้ร่วมกับวิธีอื่น เช่น ถุงยางอนามัย หรือยาคุมกำเนิด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- เหมาะสำหรับการติดตามสุขภาพมากกว่าการใช้เป็นวิธีคุมกำเนิดหลัก
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการคุมกำเนิด ติดต่อเราได้ที่นี่ RSA Online : https://abortion.rsathai.org
Line Official : @rsathai , Inbox Facebook Page : rsathai
บริการให้คำปรึกษาออนไลน์ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00-19.00 น.