ลืมฉีดยาคุมตามนัดหมาย ทำอย่างไรดีคะ ?
ยาฉีดคุมกำเนิด เป็นการคุมกำเนิดที่ต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์รับบริการได้ที่โรงพยาบาลของรัฐและเอกชนและคลินิกเอกชนบางแห่ง ยาฉีดคุมกำเนิคมี 2 ชนิด คือ ฉีดแล้วคุมได้ 3 เดือน และ 1 เดือน โดยฉีดที่กล้ามเนื้อต้นแขน หรือสะโพก หลังฉีดอาจมีอาการปวดตึงๆ ในบริเวณที่ฉีดยาประมาณ 1 วัน แล้วจะหายไปเอง ที่สำคัญคือ หลังฉีดยาอย่าไปคลึงบริเวณที่ฉีดยาเพราะจะทำให้ยาถูกดูดซึมเร็วเกินไป การรับบริการ ให้ไปรับบริการฉีดยาใน 5...
ใส่ห่วงอนามัยเมื่อร่วมเพศฝ่ายชายจะรู้สึกเจ็บหรือไม่ ?
ช่องคลอดผู้หญิงจะมีเพียงสายไนล่อนเล็กๆ โดยปกติช่องคลอดมีน้ำหล่อลื่นและมีมากขึ้นระหว่างการร่วมเพศ อีกทั้งอวัยวะเพศของฝ่ายชายจะอยู่เพียงในช่องคลอดเท่านั้นไม่มีโอกาสจะสัมผัสห่วงอนามัยได้จึงไม่รู้สึกเจ็บ
เคล็ดไม่ลับผู้ที่ใส่ห่วงอนามัย จะมีสายไนล่อนเล็กๆ อยู่ในช่องคลอด ควรหมั่นตรวจด้วยตัวเอง โดยเฉพาะช่วงหลังประจำเดือนหยุดแล้วใหม่ๆ ทุกๆ เดือนว่ายังอยู่หรือไม่ ถ้าห่วงหลุดก็สามารถทำให้ตั้งท้องได้
ประจำเดือน 101 : ประจำเดือนคือเลือดเสียหรือไม่ ?
การมีประจำเดือนที่ผู้หญิงหลายคนมักจะเรียกหรือรู้จักกันว่า "เมนส์" หรือ "ระดู" มักเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ที่ทำให้ผู้หญิงมีรูปร่างและมีกลิ่นตัวเฉพาะที่แตกต่างไปจากผู้ชาย ทั้งนี้เนื่องมาจากสารที่ร่างกายสร้างขึ้นในผู้หญิงแตกต่างจากในผู้ชาย สารดังกล่าวนี้ยังส่งผลทำให้เกิดประจำเดือนในผู้หญิงด้วย
ปกติเด็กผู้หญิงจะมีประจำเดือนครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 11 - 15 ปี เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยสาว รังไข่ทั้งสองข้างที่ติดกับมดลูกจะเจริญเติบโตเต็มที่และพร้อมที่จะผลิตไข่ออกมาทุกเดือน
โดยปกติจะมีไข่ตกจากรังไข่เดือนละ 1 ฟองสลับกันเดือนละข้าง เมื่อไข่ตกจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ท่อนำไข่และไปฝังตัวที่ผนังมดลูก ซึ่งจะมีลักษณะหนาขึ้นเพราะสะสมสารอาหารต่างๆ เอาไว้สำหรับเลี้ยงตัวอ่อน หากไข่ไม่ได้ผสมกับเชื้ออสุจิ ผนังก็จะหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน...
หลั่งในปาก ท้องได้ไหม ไขข้อสงสัยเรื่องโอกาสตั้งครรภ์และความเสี่ยง
หลายคนสงสัยว่า หากมีการหลั่งอสุจิในปาก จะมีโอกาสตั้งครรภ์หรือไม่ คำตอบอยู่ที่นี่
1. หลั่งในปาก มีโอกาสตั้งครรภ์หรือไม่
ไม่สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ เพราะอสุจิที่เข้าสู่ช่องปาก ไม่สามารถเดินทางไปยังมดลูกได้
การตั้งครรภ์เกิดขึ้นเมื่ออสุจิเข้าสู่ช่องคลอดและไปปฏิสนธิกับไข่ในมดลูก
หมายความว่า ต่อให้มีการกลืนอสุจิ อสุจิจะถูกย่อยโดยระบบทางเดินอาหาร และไม่มีทางเข้าสู่ระบบสืบพันธุ์
2. แต่มีความเสี่ยงอะไรบ้าง
แม้จะไม่ทำให้ตั้งครรภ์ แต่การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก อาจมีความเสี่ยงดังนี้:
เสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น
เริมที่ปาก
HPV ซึ่งอาจนำไปสู่มะเร็งช่องปาก
หนองใน
ซิฟิลิส
เอชไอวี แม้โอกาสจะต่ำ แต่ยังมีความเสี่ยง
3. ป้องกันอย่างไรให้ปลอดภัย
ใช้ถุงยางอนามัยขณะทำออรัลเซ็กซ์ ถุงยางแบบบางช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
ตรวจสุขภาพทางเพศเป็นประจำ หากมีพฤติกรรมเสี่ยง ควรตรวจเช็กสุขภาพทางเพศอย่างสม่ำเสมอ
รักษาความสะอาดช่องปาก หลีกเลี่ยงการแปรงฟันทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ทางปาก เพราะอาจทำให้เกิดแผลและเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ
สรุป
หลั่งในปาก...
ไขข้อสงสัย! “ความเชื่อ” เกี่ยวกับการคุมกำเนิด
1. “หลั่งนอกช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้”
เรื่องจริง: การหลั่งนอกไม่ใช่วิธีป้องกัน หากต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ ควรใช้วิธีที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมกำเนิด หรือห่วงอนามัย
2. “นับวันปลอดภัยช่วยคุมกำเนิดได้แน่นอน”
เรื่องจริง: การนับวันปลอดภัยมีโอกาสพลาดสูง เพราะรอบเดือนของผู้หญิงอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามปัจจัยต่างๆ เช่น ความเครียด อาหาร และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ควรใช้วิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ เช่น ถุงยางอนามัย หรือยาคุมกำเนิด
3. “กินยาคุมกำเนิดนานๆ จะทำให้มีบุตรยาก”
เรื่องจริง: เมื่อหยุดกิน ร่างกายจะกลับมาเป็นปกติ...
อันนี้ช่วยยุติได้ไหม?
Q&A รวมวิธีเสี่ยงที่หลายคนยังเข้าใจผิด
Q: ใช้ของแหลมสอดเข้าไปในช่องคลอด จะช่วยให้แท้งได้ไหม?
A: ไม่ช่วยให้แท้งได้ และ อันตรายถึงชีวิต เช่น ไม้เสียบลูกชิ้น ตะเกียบ ดินสอ อาจทำให้มดลูกทะลุ
Q: กินสมุนไพร ยาถ่าย หรือของรสแรง จะช่วยขับออกได้ไหม?
A: ไม่ช่วยค่ะ เช่น น้ำมะเกลือ น้ำขับประจำเดือน ดีเกลือ ยาถ่ายรุนแรง บางคนกินมากจน ตับวาย...
พลาดไปแล้ว มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน ต้องทำยังไง
ถ้าเพิ่งมีเพศสัมพันธ์ โดยที่ไม่ได้ป้องกัน หรือป้องกันแล้วแต่ถุงยางขาด ลืมกินยาคุม หรือไม่มั่นใจ อย่าเพิ่งตกใจ เพราะยังมีวิธีที่ช่วยลดโอกาสเสี่ยงท้องได้ ถ้าทำทันเวลา
สิ่งที่ควรทำทันที
1. กินยาคุมกำเนิดฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพสูงสุดถ้ากิน ภายใน 24 ชั่วโมงแรก
2. นับระยะเวลาหลังมีเพศสัมพันธ์ หากผ่านมาไม่นาน (เช่น ในวันเดียวกัน) → กินได้เลย หรือ ถ้าภายใน 5 วัน หลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน...
ฝังกับถอดยาคุม คนละที่ได้ไหม?
ฝังกับถอดยาคุม คนละที่ได้ไหม?
ได้ค่ะ คุณสามารถ ถอดยาฝังที่สถานพยาบาลหนึ่ง แล้วไปฝังใหม่ที่อีกแห่งได้ แต่ควรแจ้งแพทย์ให้ทราบว่าเพิ่งถอดจากที่ใดมา และมีข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการใช้ยาฝังเดิม
สิ่งที่ควรรู้ก่อนเปลี่ยนที่ฝัง
บางแห่งอาจไม่รับถอด หากไม่ได้เป็นผู้ฝังเดิม → ควรสอบถามก่อนล่วงหน้า
ถ้าเลือกฝังใหม่ทันทีหลังถอด ควรทำภายในวันเดียวกัน หรือใช้วิธีป้องกันอื่นระหว่างรอ
หญิงไทยทุกสิทธิรักษา (บัตรทอง/ประกันสังคม/ข้าราชการ) → ใช้สิทธิฝังยาคุมกำเนิดฟรีได้
วางแผนต่อเนื่อง ป้องกันไม่ให้พลาด
การเว้นช่วงระหว่างถอดกับฝังใหม่ อาจทำให้เสี่ยงตั้งครรภ์ หากยังไม่พร้อมท้อง ควรใช้วิธีป้องกันเสริม เช่น ถุงยาง หรือยาคุมฉุกเฉินในช่วงเปลี่ยนผ่าน
ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าควรไปถอดหรือฝังที่ไหนดี หรืออยากหาสถานพยาบาลใกล้บ้าน ติดต่อเราได้ที่นี่ระบบปรึกษาท้องไม่พร้อม...
การตั้งครรภ์ไม่พร้อมไม่ใช่เรื่องของผู้หญิงคนเดียว บทบาทที่ผู้ชายสามารถทำได้
การตั้งครรภ์ไม่พร้อม ไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงต้องเผชิญเพียงลำพัง
ผู้ชายที่อยู่ข้างเธอในช่วงเวลานี้ สามารถเป็นพลังสำคัญที่ทำให้เธอรู้สึกไม่โดดเดี่ยว และตัดสินใจในเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองได้อย่างมั่นใจ
บทบาทที่ผู้ชายสามารถทำได้
1. ฟังโดยไม่ตัดสิน รับฟังอย่างตั้งใจ เปิดโอกาสให้เธอได้ระบายความรู้สึก ไม่ใช่แค่ฟังผ่าน ๆ แต่ฟังด้วยความเข้าใจ
2. คุยกันด้วยเหตุผล หลีกเลี่ยงการพูดเพียงว่า "แล้วแต่เธอ" เพราะอาจทำให้เธอรู้สึกว่าต้องแบกภาระตัดสินใจเพียงลำพัง ควรพูดคุยกันอย่างมีเหตุผลและแบ่งปันมุมมองอย่างอ่อนโยน
3. หาข้อมูลที่ปลอดภัย ร่วมกันค้นหาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น rsathai.org เพื่อให้การตัดสินใจมีข้อมูลรองรับ และลดความกังวล
4. อย่าหายไป การมีตัวตนอยู่ข้าง ๆ...
เจอแบบนี้ต้องเริ่มจากไหน? คู่มือเบื้องต้นของคนท้องไม่พร้อม
เมื่อรู้ตัวว่าท้องไม่พร้อม หลายคนรู้สึกตกใจ สับสน หรือไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน การเริ่มต้น “พูดกับใครสักคน” คือก้าวแรกที่สำคัญมากเพราะคุณไม่จำเป็นต้องแบกรับเรื่องทั้งหมดไว้คนเดียว
1. พูดคุยกับคู่ของคุณ
หากคุณมีแฟนหรือคู่ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ครั้งนี้ การเริ่มคุยกันตรง ๆ คือจุดเริ่มต้นสำคัญ
บอกเขาว่าคุณกำลังรู้สึกอย่างไร
ฟังว่าเขารู้สึกอย่างไร
เปิดโอกาสให้ทั้งสองคนมีส่วนร่วมในทางเลือกที่จะเกิดขึ้น
การพูดคุยแบบไม่ตัดสินกัน จะช่วยให้คุณไม่รู้สึกโดดเดี่ยว และช่วยให้การตัดสินใจเกิดขึ้นร่วมกัน
2. ปรึกษาคนที่คุณไว้ใจได้
หากคุณยังไม่พร้อมคุยกับคู่ ลองนึกถึงใครบางคนที่คุณไว้ใจได้ เช่น
เพื่อนสนิท
พี่สาว น้องชาย
ครูแนะแนว หรือคนใกล้ตัวที่ฟังอย่างไม่ตัดสิน
บางครั้งแค่ได้เล่าให้ใครสักคนฟัง ก็ช่วยให้คุณจัดการความรู้สึกของตัวเองได้ดีขึ้น และมองเห็นทางเลือกชัดขึ้น
3. ช่องทางปรึกษาที่ปลอดภัย
ถ้ายังไม่กล้าคุยกับคนใกล้ตัว คุณสามารถเริ่มต้นปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ทันที โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตนRSA Online...