5 ข้อเรียกร้อง เพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าไม่ถึงบริการยุติการตั้งครรภ์ในช่วงโควิด-19
วันนี้ ศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2563 เครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม ร่วมกับองค์กรภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม (ไทยและต่างประเทศ) 55 องค์กร และผู้ร่วมลงช่ือสนับสนุนในเว็บไซต์ Change.org และลงช่ือกับกลุ่มทำทางรวม 569 รายช่ือ ยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง ต่อกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ขอให้พิจารณาออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าไม่ถึงบริการยุติการตั้งครรภ์ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อการให้บริการด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ซึ่งเป็นบริการสุขภาพที่มีความสำคัญ และจำเป็นบริการหนึ่งซึ่งไม่สามารถจะหยุดดำเนินการ หรือชะลอการดำเนินการได้ โดยสถานบริการสุขภาพ...
“หญิงตั้งครรภ์ท้องที่ 6 มีปัญหาสุขภาพ ได้รับการรักษาต่อเนื่องจากการผ่าตัดเนื้องอกในสมอง ครรภ์ล่าสุดพบเนื้องอกในมดลูก..
“หญิงตั้งครรภ์ท้องที่ 6 มีปัญหาสุขภาพ ได้รับการรักษาต่อเนื่องจากการผ่าตัดเนื้องอกในสมอง ครรภ์ล่าสุดพบเนื้องอกในมดลูก โรงพยาบาลปฏิเสธการยุติการตั้งครรภ์ สุดท้ายถูกเกลี้ยกล่อมให้ตั้งครรภ์ต่อ...”
หญิงตั้งครรภ์วัยเกือบ 50 ปี มีลูกมาแล้ว 5 คน ท้องนี้เป็นท้องที่ 6 เธอหาเลี้ยงครอบครัวด้วยการรับจ้างทำงานก่อสร้าง และมีโรคประจำตัวคือโรคลมชัก เมื่อ 6 ปีก่อน เธอเคยผ่าตัดเนื้องอกในสมอง ได้รับยาและรักษาต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ปัญหาสุขภาพที่รุมเร้าทำให้เธอไม่ต้องการตั้งครรภ์ต่อ จึงไปปรึกษาโรงพยาบาลชุมชนตามสิทธิบัตรทอง หลังจากนั้นก็ส่งต่อมาที่โรงพยาบาลจังหวัด ผลอัลตราซาวด์ตั้งครรภ์ได้...
บริการและสวัสดิการช่วยเหลือผู้หญิงท้องไม่พร้อม กรณีท้องต่อในภาครัฐ
“ท้องไม่พร้อม” เป็นภาวะวิกฤตในชีวิตของผู้หญิง และเมื่อต้องท้องต่อ ไม่ว่าจะด้วยเงื่อนไขใดๆ ล้วนแต่เป็นความยากลำบากที่ผู้หญิงต้องเผชิญ ทัศนคติทางสังคมที่มองว่า ผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมเป็นผู้ละเมิดกรอบกติกา ค่านิยมในเรื่องเพศ ทำให้การประณาม ตัดสินลงโทษยังคงส่งผ่านสถาบันครอบครัว การศึกษา ที่ทำงาน และสถานบริการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โอกาสในชีวิตผู้หญิงท้องไม่พร้อมจึงหายไป เช่น ไม่สามารถอยู่ในครอบครัวได้ ขาดโอกาสทางการศึกษา ทางเลือกในการประกอบอาชีพและรายได้ เผชิญกับความรู้สึกไร้คุณค่า ตีตราตนเองและตั้งท้องซ้ำ
การจัดบริการและระบบสวัสดิการ สำหรับผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมกรณีท้องต่อ ควรเป็นการจัดระบบบริการ สวัสดิการแบบเสริมพลัง...
กฎหมายไทย ทำแท้งได้กรณีไหนบ้าง?
การทำแท้งในประเทศไทยไม่ได้ผิดกฎหมายทั้งหมด กฎหมายอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถตัดสินใจทำแท้งได้โดยแพทย์ โดยมีข้อบ่งชี้เหตุผลทางการแพทย์เพื่อสุขภาพและชีวิตของหญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งการตั้งครรภ์ที่เกิดจากความผิดทางเพศ ดังต่อไปนี้
การตั้งครรภ์นั้นส่งผลเสียต่อชีวิตหรือสุขภาพทางกายของผู้หญิงการตั้งครรภ์ที่เกิดจากการถูกข่มขืนกระทำชำเราการตั้งครรภ์ในเด็กหญิงที่อายุไม่เกิน 15 ปี ไม่ว่าหญิงนั้นจะสมยอมหรือไม่ก็ตามการตั้งครรภ์มาจากเหตุล่อลวง บังคับ หรือข่มขู่ เพื่อทำอนาจาร สนองความใคร่การตั้งครรภ์นั้นส่งผลเสียต่อสุขภาพทางใจของผู้หญิง (เพิ่มเติมในข้อบังคับแพทยสภา พ.ศ. 2548 ขยายความ ”สุขภาพ” ให้ครอบคลุมทางกายและใจ แต่ยังไม่ถูกระบุไว้ในกฎหมาย)ทารกในครรภ์มีความพิการ (เพิ่มเติมในข้อบังคับแพทยสภา พ.ศ. 2548 โดยใช้เหตุผลปัญหาสุขภาพทางใจของผู้หญิง แต่ยังไม่ถูกระบุไว้ในกฎหมาย)
ผลสำรวจโดยกรมอนามัย...
โตแล้วไปไหน … หรือไม่ได้ไปไหน !?
มีคำถามคำถามหนึ่งที่นานๆ ทีจะมีคนนึกได้แล้วถามขึ้นมา คือ มีไหม เด็กที่แม่ยกมอบให้มูลนิธิแล้ว แต่เราหาครอบครัวบุญธรรมให้ไม่ได้ ตกค้างเพราะปัญหาเอกสาร การไม่ยินยอม (สักที) มีปัญหาสุขภาพหนักๆ หรือมีปัญหาอะไรก็ตามที่ทำให้ไปไหนไม่ได้และตกค้างอยู่จนโต และเริ่มแน่ใจว่า ต้องเตรียมตัวเด็กให้เติบโตอยู่ที่เมืองไทยแบบพึ่งพาตนเองได้มีค่ะ มีแน่นอน แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น เราจะต้องทำงานกับเด็กโตกลุ่มนี้อย่างเข้มข้น เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เขาพึ่งพาตัวเองได้...
คนเราเติบโตขึ้นทุกวัน ก็เรียนรู้มากขึ้นทุกวัน และแข็งแรงมากขึ้นทุกวันด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะหมดห่วงได้ง่ายๆ เด็กเหล่านี้เติบโตในครอบครัวอุปถัมภ์ มีพ่อแม่พี่น้องญาติโยมให้การดูแล ให้ความรักความอบอุ่นเต็มที่ แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง...
ทำหมัน ผู้ชายต้องรู้
บริการทำหมันชายที่คลินิกมีชัย สุขุมวิท 12
รู้หรือไม่ !! ปัจจุบันมีบริการทำหมันชาย (หมันเจาะ) มีค่าใช้จ่ายประมาณ 6,000 บาท และจองล่วงหน้า ได้ที่สุขุมวิท 12 คลินิกเวชกรรมชุมชน สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (PDA) สาขากรุงเทพฯ
โดยมี 5 ขั้นตอนการทำหมันชาย (หมันเจาะ) ดังนี้
เตรียมหมัน :...
การทำแท้งเป็นสิทธิของหญิง แล้วหมอมีหน้าที่ต้องทำแท้งให้หรือไม่?
วันนี้ จะเป็นวันสำคัญ!! ในวงการสิทธิมนุษยชนของไทย เพราะเป็นวันที่กฎหมายอาญา ม.301 และ 305 (ที่แก้ไขใหม่) มีผลบังคับใช้.....การทำแท้งเป็นสิทธิของหญิง แล้วหมอมีหน้าที่ต้องทำแท้งให้หรือไม่?7 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นวันสำคัญในวงการสิทธิมนุษยชนของไทยเพราะเป็นวันที่กฎหมายอาญา ม.301 และ 305 ที่แก้ไขใหม่มีผลบังคับใช้ ส่งผลให้ผู้หญิงสามารถทำแท้งได้ตามใจสมัครถึงอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ โดยแยกเป็น 12 สัปดาห์แรกทำได้เอง ส่วน...
9 เรื่องจริงที่ต้องรู้เรื่องยาฝังคุมกำเนิด
ยาฝังคุมกำเนิดเป็นวิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราว ตัวยาเป็นฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเช่นเดียวกับยาฉีดคุมกำเนิด กลไกการคุมกำเนิด คือ ทำให้มูกที่ปากมดลูกข้นเหนียวจนตัวอสุจิผ่านเข้าโพรงมดลูกได้ยาก และยับยั้งการตกไข่
2. สามารถคุมกำเนิดได้ในระยะเวลา 3 ปี และ 5 ปี แล้วแต่ชนิดของยา ให้ประสิทธิภาพสูงถึงร้อยละ 99
3. การฝังยาฝังคุมกำเนิด จะฝังหลอดยาบริเวณต้นแขนด้านใน กึ่งกลางระหว่างรักแร้และข้อศอก เข้าไปใต้ผิวหนังแผลจะเล็กมากไม่ต้องเย็บแผลเพียงปิดด้วยพลาสเตอร์เล็ก ๆ แผลจะหายเป็นปกติภายใน 3-5 วัน หลังจากทำไปแล้วไม่ให้ถูกน้ำ...
YOU & ME รักนี้เราเข้าใจ ใส่ใจ เพศสัมพันธ์ปลอดภัย ไม่ท้อง ป้องกันโรคต้องใช้…ถุงยางอนามัย
“ถุงยางอนามัย" เป็นเรื่องของคนสองคนที่ต้องพูดคุยและช่วยกันเตรียมไว้ เพราะการมีเซ็กซ์ที่ปลอดภัยไม่ใช่เรื่องน่าอาย แถมยังทำให้ทั้งสองฝ่ายต่างมีสุขภาพทางเพศที่ดีอีกด้วย เป็นที่รู้กันว่าอุปกรณ์คุมกำเนิดส่วนใหญ่นั้น ผลิตขึ้นโดยมุ่งไปที่ผู้หญิงเป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นยาคุมกำเนิดแบบเม็ด ยาฉีดคุมกำเนิด หรือห่วงคุมกำเนิด ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่มุ่งไปที่การป้องกันท้องแต่ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เอชไอวี/เอดส์
ในขณะที่ถุงยางอนามัยเป็นอุปกรณ์การคุมกำเนิดอีกชนิดหนึ่ง และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ปลอดภัยจากการติดโรคได้มากที่สุดและยังป้องกันท้องได้อีกด้วย
ความกังวลใจถึงผลที่จะตามมาของการมีเพศสัมพันธ์อาจเกิดขึ้นทั้งหญิงและชาย แต่ปัญหานี้ดูจะตกหนักที่ผู้หญิงมากกว่า สิ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะกังวลนั้นเป็นเรื่อง "ท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ" มากกว่าที่จะกลัวการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากคู่นอน
ทั้งที่จริงๆ แล้วเรื่องท้องไม่ใช่ปัญหาเดียวที่สำคัญ เพราะการติดโรคทางเพศสัมพันธ์โดยเฉพาะเอชไอวี /เอดส์ ซิฟิลิส ก็สำคัญไม่แพ้กันเลย และประเด็นหลังนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งกับผู้หญิงและผู้ชายเท่าๆ...
วินาทีที่คุณปฏิเสธ คนไข้ท้องไม่พร้อม
ถึงเวลาแล้วที่ทุกคนควรจะเข้าใจว่า ผู้หญิงสามารถรับบริการทำแท้งได้โดยไม่ถือเป็นความผิดบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่เคารพรัก วินาทีที่คุณปฏิเสธคนไข้ท้องไม่พร้อมโดยไม่แนะนำอะไร นอกจากให้เธอไปฝากครรภ์ เธอจะไม่พึ่งระบบที่ปลอดภัยอีกต่อไป แต่เธอจะไปเสาะหาที่ทำแท้งเถื่อนแทน และอีกไม่กี่วันเธอก็จะกลับมาหาคุณอยู่ดี ด้วยภาวะแทรกซ้อนจากการไปทำแท้งเถื่อน
“วินาทีที่หญิงติดเชื้อมาโรงพยาบาล แล้วคุณสงสัยว่าจากการทำแท้ง หญิงคนนั้นจะไม่ใช่คนดีอีกต่อไป แต่เธอจะกลายเป็นอาชญากร" ที่คุณพร้อมจะลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ด้วยสายตาและคำพูด
"ถ้าคุณผลักไสเธอออกจากระบบบริการสุขภาพ..ประตูทำแท้งเถื่อนจะเปิดรับเธอทันที"
เรื่องทำแท้ง เราควรเดินออกมาจากวังวนของทัศนคติได้แล้ว หากพูดกันแต่เรื่องความเชื่อ ความผิดบาป การช่วยเหลือหญิงท้องไม่พร้อมจะไปไม่ถึงไหน และไม่มีทางที่จะเป็นบริการสุขภาพได้
เราอยู่ในสังคมที่หลากหลายความคิด และเคารพความต่าง แต่เราลืมให้ค่าของสิทธิหญิงท้องไม่พร้อมไหม ?
เพราะอะไรเราถึงไม่พูดถึงข้อกฎหมาย ทั้งประมวลกฎหมายอาญามาตรา 301-305 และข้อบังคับแพทยสภาว่าการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ ความเชื่อความรู้สึกของคนทำงานจะใหญ่กว่าข้อกฎหมายที่บังคับใช้ไม่ได้
ทุกวันนี้ หากมีผู้หญิงที่ทำแท้งมารักษาที่โรงพยาบาล จะมีการบันทึกในประวัติการรักษาว่า...