ประเทศไทยมีปัญหาท้องไม่พร้อมมากเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย และจากสถานการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัยโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน ส่วนหนึ่งมาจากการที่กลัวว่าครอบครัว ผู้ปกครองจะรับไม่ได้ ทำให้เยาวชนหาทางออกด้วยการทำแท้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างรุนแรง กลไกการให้คำปรึกษาปัญหาผ่านสายด่วน 1663 จึงเกิดขึ้น โดยหวังให้เป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาที่เหมาะสม
คำแนะนำเบื้องต้นที่เจ้าหน้าที่สายด่วน 1663 ให้กับเยาวชนหญิงอายุ 16 ปี คนหนึ่งที่ตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน และไม่ต้องการยุติการตั้งครรภ์ แม้ว่าผู้ปกครองจะไม่เห็นด้วยก็ตาม สาเหตุเธอต้องเผชิญปัญหาท้องไม่พร้อมเพียงลำพัง เพราะกลัวทางบ้านรับไม่ได้ กระทบการเรียน และฝ่ายชายไม่รับผิดชอบ การเสนอทางเลือกแล้วให้เยาวชนตัดสินใจบนพื้นฐานความถูกต้อง ปลอดภัย จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้
ก่อนหน้านี้ สายด่วน 1663 รับปรึกษาปัญหาเอดส์เท่านั้น แต่เนื่องจากปัญหาท้องไม่พร้อม และยุติการตั้งครรภ์ไม่ปลอดภัยมีมากขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มการให้บริการคำปรึกษาแนะนำในเรื่องนี้ด้วย แต่ละเดือนจะมีเยาวชนโทรมาขอคำปรึกษาเฉลี่ย 100 กรณี มีทั้งปรึกษาว่าตัวเองมีพฤติกรรมเสี่ยงตั้งครรภ์หรือไม่ ซึ่งสามารถคำนวณความเสี่ยงผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การขอข้อมูลเพื่อตัดสินใจ จนถึงการให้เจ้าหน้าที่เป็นตัวกลางประสานไปยังหน่วยบริการสาธารณสุขเพื่อดำเนินการยุติตั้งครรภ์
นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า สายด่วน 1663 เป็นกลไกป้องกันการยุติการตั้งครรภ์ไม่ปลอดภัย ซึ่งเยาวชน และประชาชนสามารถปรึกษาได้ทุกวัน โดยหวังเป็นจุดเริ่มต้นให้ระบบบริการสุขภาพตื่นตัวจากการเป็นได้เพียงหน่วยงานตั้งรับมาเป็นทางเลือกที่เหมาะสมให้กับผู้ที่ประสบปัญหา เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
ปัจจุบันประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสถิติท้องไม่พร้อมเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย เมื่อดูจากรายงานการทำแท้งจากสำนักอนามัยเจริญพันธุ์ กรมอนามัย ในปี 2554 พบว่าเยาวชนอายุ 15 – 19 ปี ท้องไม่พร้อมถึงร้อยละ 71.5 โดยเลือกยุติการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง และกับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ร้อยละ 20 ในจำนวนนี้พบภาวะแทรกซ้อนรุนแรง ตกเลือด ถึงร้อยละ 21.4
แหล่งข้อมูล : https://news.thaipbs.or.th/content/199835 สืบค้นเมื่อ วันที่ 7 กันยายน 2561