การตั้งท้องประเภทหนึ่งที่พวกผมพยายามอธิบายให้พวกเขาทั้งคู่ทราบว่า “ท้องต่อไม่ได้ ควรทำแท้ง” นั่นคือคู่สมรสที่มีลูกในท้องเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง
เรื่องนี้อาจจะยากสักนิด แต่เชื่อไหม มันอยู่ในตัวพวกเรา
จริงๆ เพราะผมกำลังพูดถึง “ระบบเลือดและการขนส่งออกซิเจน”
ทันทีทันใดที่พวกเรามุดหัวออกมาจากจิ๋มของแม่แล้วแหกปากร้องแทบตายเพื่อที่จะหายใจเอาลมเข้าไปขยายปอดให้ได้นั้น กระบวนการแลกเปลี่ยนก๊าซของร่างกายก็เริ่มต้นขึ้นทันที
อากาศถูกเราหายใจเข้าไปในปอด เข้าไปยังส่วนที่ลึกที่สุดซึ่งเป็นระบบหลอดเลือดฝอย ก๊าซออกซิเจนจะถูกดึงเข้าไปในหลอดเลือด โดยมีตัวมาจับคือฮีโมโกลบินบนผิวเม็ดเลือดแดง จากนั้นก็ถูกลำเลียงไปส่งยังส่วนอื่นๆของร่างกายต่อไปด้วยแรงปั๊มของหัวใจนั่นเอง
ประเด็นของเรื่องที่กำลังจะเล่าก็คือ ฮีโมโกลบิน และความผิดปกติของฮีโมโกลบินบินนี้นี่เอง เราเรียกมันว่า “ธาลัสซีเมีย”
เจ้าฮีโมโกลบินถูกกำหนดให้สร้างขึ้นมาด้วยพันธุกรรมของพ่อและแม่อย่างละครึ่ง คราวนี้ หากใครคนใดคนหนึ่งเกิดเป็นพาหะของความผิดปกติในการสร้างฮีโมโกลบิน ก็สามารถส่งพันธุกรรมนี้ไปให้ลูกด้วย และหากแจ๊กพ็อตจริงๆ ลูกเกิดได้รับพันธุกรรมของธาลัสซียเมียมาจากทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน เขาก็จะเป็นโรคธาลัสซีเมียเต็มรูปแบบ
บางแบบอาจจะแค่ซีดเล็กน้อย เม็ดเลือดแดงผิดรูป อาจจะไม่ต้องรับเลือดเลยตลอดชีวิต บางแบบอาจจะรุนแรงขึ้นมาหน่อย เม็ดเลือดแดงเสียรูปมาก และซีดแหงแก๋ ต้องรับเลือดเป็นประจำ เด็กกลุ่มนี้จะมีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายๆกันคือ โหนกแก้มสูง ซีดจนออกจะเหลืองๆ ตับม้ามโตจนพุงป่อง และบางแบบ ทารกจะตายตั้งแต่อยู่ในท้อง แต่กลุ่มนี้มักไม่ตายอย่างโดดเดี่ยว เพราะรกของเค้าจะใหญ่มาก มันทำให้แม่เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษรุนแรง ชัก และตายได้ หากเราทำให้แท้งไม่ทันหรือไม่ให้ทำให้เด็กและรกคลอดออกมาโดยเร็ว
มันสำคัญมากนะครับ ที่เราจะต้องค้นหาคู่สมรสที่เป็นคู่เสี่ยง คือทั้งคู่เป็นพาหะของโรค หากเขามีลูกด้วยกัน (ไม่นับรวมคนที่ท้องกับชู้ที่ไม่ได้เป็นพาหะของโรคนะครับ) เราจะต้องวินิจฉัยให้ได้ว่า ลูกของเขาเป็นโรคไหม เราจะเจาะน้ำคร่ำตรวจกัน
ไม่สับสนไปใช่ไหม
“ทำไมคนท้องคนนี้จึงรู้ช้าจังว่าเป็นพาหะธาลัสซีเมีย” อาจารย์ป้าเปิ้ลบ่นพึมพัมเมื่อพบว่า คนท้องตรงหน้าของเธอที่มีอายุครรภ์ ๑๗ สัปดาห์เข้าไปแล้ว เพิ่งมารู้ว่าผลเลือดผิดปกติ ทั้งๆที่เราทราบผลมาตั้งเดือนหนึ่งแล้ว
ปกติเราจะตามคนไข้ในทันทีครับ เพื่อที่จะเรียกสามีของเธอมาตรวจเลือดให้ได้
“พี่โทรตามเค้าหลายรอบแล้วค่ะ แต่คนไข้ไม่รับโทรศัพท์เลย” พี่เนาว์ เจ้าแม่เรื่องนี้เป็นผู้อธิบายให้อาจารย์เปิ้ลได้ทราบถึงปัญหา
“เธอ เรื่องนี้สำคัญมากนะ เรามีเวลาไม่นานที่จะจัดการ ช่วยไปโทรตามสามีมาให้เราเจาะเลือดหน่อยสิ” พี่เปิ้ลหันไปหาคนท้องป่องที่นั่งอยู่ตรงหน้า
“หนูบอกไปแล้ว แต่เค้าก็ไม่มา บอกว่ามาไม่ได้ หัวหน้าไม่ให้มา” เธอบอก
“บอกหมอหน่อยซิ แฟนเธอทำงานอยู่ที่ไหน” ผมนี่อยากรู้นักว่าพี่เปิ้ลจะทำอย่างไรต่อไป
“ก็ทำงานอยู่ข้างล่างนี้นี่แหละ”
“หือ..?” อาจารย์พี่เปิ้ลคงทำหน้าสงสัย
“ข้างล่างนี้ก็คือชั้นเบสของโรงพยาบาลเรา อ้าว ก็เป็นคนของเราเอง มันเกิดอะไรขึ้นวะ” อันนี้ผมเป็นคนพึมพัมเองบ้าง
“พี่แกนคะ พี่ช่วยโทรไปหาคนๆนี้ให้หน่อย เค้าทำงานอยู่ในโรงพยาบาลของเรานี่เอง บอกให้เค้าขึ้นมาเจาะเลือด” พี่แกนคือคนสำคัญของแผนกฝากครรภ์โรงพยาบาลของผม อยากรู้อะไรที่เกี่ยวกับคนไข้ ถามพี่แกน จำชื่อคนไข้ไม่ได้ ถามพี่แกน คนไข้คนนั้นอยู่ที่ไหน นัดเมื่อไหร่ ถามพี่แกน อะไรก็ได้ ก็ถามพี่แกน
ไม่นานนักพี่แกนก็เดินเข้ามาหลังจัดการโทรศัพท์ไปตามผู้ชายคนนั้นได้
“เค้าบอกไม่รู้เรื่องเรื่องที่ต้องมาเจาะเลือดเลยนี่คะจารย์เปิ้ล” เธอบอก
อะไรวะ
“ไม่ใช่..” คราวนี้ห้องเงียบ เพราะคนไข้เธอคงหงุดหงิด
“มันพูดไม่จริง ความจริงคือหนูไม่ได้โทรศัพท์ไปหามันจริงๆ แต่หนูบอกมันกับปากเลยว่าให้มาเจาะเลือด เข้าใจไหมหมอ บอกกับปาก ไม่ได้ใช้โทรศัพท์ มันก็บอกเองว่ามาไม่ได้ หัวหน้างานไม่ให้มา” เธอหัวเสีย
“เอาล่ะ เข้าใจแล้ว บอกกับปากก็บอกกับปาก” พี่เปิ้ลแกบอกผมว่า แกขำ
“พี่แกนคะ ทำยังไงก็ได้ ให้สามีของคนคนนี้มาเจาะเลือดให้ได้ ภายในวันนี้ บอกเค้าไปว่า ถ้ามีปัญหา หมอจะให้อาจารย์แป๊ะเดินลงไป”
เอ๊า..
หึหึ
อันที่จริงน่ะ ไอ้เจ้าคนนั้นมันกลัวเข็ม มันกลัวการเจาะเลือด
โธ่เอ๋ย พูดถึงเจาะเลือด เล่นเอาไข่หด
ธนพันธ์ ชูบุญไม่กลัวเข็มแค่เข็มเล็ก
๕ มค ๖๒
ที่มา : https://web.facebook.com/100001116121950/posts/2015802785133573/?_rdc=1&_rdr