วันที่ 22 สิงหาคม 2563 หัวข้อข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งลงว่า แม่ใจร้ายนำทารกแรกเกิดมาทิ้งในถังขยะ…เด็กดวงแข็งส่งเสียงร้องรอดตายหวุดหวิด วันเดียวกัน ข่าวเดียวกันของหนังสือพิมพ์อีกฉบับ..แม่ทิ้งลูกสาวเพิ่งคลอดข้างถังขยะพร้อมตะกร้านม…
ข่าวออนไลน์จากเว็บหนึ่ง ลงภาพทารกพร้อมคำว่า ท้องไม่พร้อมเลี้ยง หัวข้อข่าวถัดมา…ทารกน้อยถูกทิ้งในกล่องโฟมข้างกองขยะ ยุง มดกัดเต็มตัว มีกระเป๋าใส่ขวดนม เสื้อผ้าทิ้งอยู่ด้วย
เนื้อข่าว…
เกิดเหตุที่ อบต. หนองบัวศาลา อำเภอเมืองนครราชสีมา ทารกที่ถูกทิ้งมีสภาพแข็งแรงดี น่าจะเพิ่งเกิดไม่นาน เพราะยังมีสายสะดือติดอยู่ คาดว่าจะเป็นสาวโรงงานในเขตอุตสาหกรรมซึ่งมีหอพักคนงานเป็นจำนวนมาก แม่คงท้องไม่พร้อมจึงได้นำมาทิ้งไว้ ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาจะได้สอบสวนเพื่อนำ แม่ใจยักษ์ มารับโทษตามกฎหมายโดยเร็ว
คำที่สื่อใช้ แม่ใจร้าย แม่ทิ้งลูก ทารกน้อยถูกทิ้ง แม่ใจยักษ์ ท้องไม่พร้อม ตำรวจจะจับมาลงโทษ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่โลกเปลี่ยนไป แต่กรอบความคิดของสื่อ สังคมยังเหมือนเดิม ?
ขอชวนตั้งคำถาม ให้ช่วยกันพลิกมุมคิดว่า เจตนาของแม่ที่ประสบปัญหาทำไปคืออะไร เพราะอะไร ใดๆ ในโลกนี้ย่อมมีที่มาที่ไป ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นโดยไม่ได้เชื่อมโยงกับสิ่งอื่น ที่มาลึกๆ ของเหตุคืออะไร จึงจะแก้ปัญหาได้ ดังนั้นการทำความเข้าใจ ใส่ใจว่ามีอะไรบ้างที่จะช่วยผู้หญิง
ให้ความเห็นใจดีกว่าไหม การประณามน่าจะไม่ยุติธรรมสำหรับเธอและไม่เกิดประโยชน์ หรือส่งผลดีต่อสังคม มีใครบ้างที่จะเป็นผู้ช่วยเหลือเธอได้ในขณะท้องให้ไม่จนมุมจนต้องทิ้งลูก
มุมคิดของคุณอัจฉรา สายปรึกษาท้องไม่พร้อม 1663 มองข่าวแบบนี้ว่าจากข่าวที่ได้อ่านจากสื่อต่างๆ เราจะพบว่าจะมีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก หลายคนพอเห็นข่าว ก็จะพุ่งเป้าไปที่ผู้หญิง พร้อมด้วยทัศนคติเชิงลบต่อเธอเหล่านั้น เช่น แม่ใจยักษ์ แม่ใจร้าย แม่ใจแตก ไม่รับผิดชอบ
แต่ใครจะรู้ว่าที่เธอตัดสินใจทำเช่นนั้น เธอผ่านอะไรมาบ้าง จากประสบการณ์ที่ได้คุยกับน้องๆ ที่ท้องต่อด้วยหลายเหตุผล แต่น้องๆ ประเมินแล้วว่า ยังไงก็ไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้มันมีอยู่จริง แต่สังคมกลับเพิกเฉยต่อน้องๆ ที่กำลังเผชิญปัญหา แต่เมื่อน้องๆ เลือกทางเลือกที่ไม่ปลอดภัยต่อตัวเด็กและตัวผู้หญิงเอง ก็จะถูกคนในสังคมพร้อมจะตำหนิ และด่าทอ
น้องๆ หลายคนบอกว่า ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าตัวเองจะต้องตกมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ไม่คิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะท้องไม่พร้อม ไม่เคยวางแผน เคยดูแต่ในข่าว พอเรื่องนี้เกิดกับตัวเอง มันตันไปหมดทุกทาง น้องบางคนบอกว่าเก็บเรื่องท้องไว้คนเดียวหลายเดือน
บอกใครไม่ได้ต้องไปเรียนทุกวัน จะบอกพ่อแม่ ก็กลัวพ่อแม่รับไม่ได้ กลัวพ่อแม่ผิดหวัง กลัวพ่อแม่อายคนรอบข้าง จึงเก็บเป็นความลับ บอกใครไม่ได้
ผู้หญิงหลายคนอยู่บนความคาดหวังของคนรอบข้าง แต่วันหนึ่ง น้องเหล่านั้นไม่สามารถเป็นไปตามความคาดหวังได้ เมื่อมันเกิดปัญหาตรงหน้าแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของน้องๆ ว่าจะเข้าถึงการช่วยเหลือนั้นไหม บางคนไม่รู้แม้แต่แหล่งช่วยเหลือ จึงเลือกที่จะทิ้งเด็ก… (อ่านตอนจบที่นี่ : https://rsathai.org/contents/17208 )
เรื่องเล่าลุงหมอ : ตอน พลิกมุมคิด แม่ใจ…ทิ้งทารกแรกเกิด (ตอนแรก)
โดย นพ.เรืองกิตติ์ ศิริกาญจนกูล ผู้ประสานงานเครือข่ายอาสา RSA