เคยสงสัยไหมว่าทำไมต้องจดบันทึกรอบเดือน นอกจากจะช่วยให้รู้ว่าประจำเดือนมาตรงเวลาหรือไม่ ยังสามารถบอกถึงสุขภาพของคุณได้อีกด้วย มาเริ่มต้นดูแลตัวเองง่าย ๆ ด้วยการบันทึกรอบเดือนกันเถอะ
1. ทำไมต้องจดบันทึกรอบเดือน
- ช่วยให้รู้ว่ารอบเดือนปกติหรือไม่ หากมีการเปลี่ยนแปลงผิดปกติ จะสามารถสังเกตได้เร็วขึ้น
- ช่วยคำนวณวันตกไข่ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการวางแผนการตั้งครรภ์
- ช่วยคำนวณอายุครรภ์เมื่อตั้งครรภ์
- ช่วยเตรียมตัวรับมือกับอาการก่อนมีประจำเดือน เช่น ปวดท้อง ปวดหัว อารมณ์แปรปรวน
- สามารถช่วยแพทย์วินิจฉัยปัญหาสุขภาพสตรี เช่น ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ หรือความผิดปกติของฮอร์โมน
2. ควรจดบันทึกอะไรบ้าง
- วันแรกของประจำเดือน เพื่อดูว่ามาตรงเวลาหรือไม่
- ระยะเวลาของรอบเดือน ปกติรอบเดือนจะอยู่ที่ 21-35 วัน
- ปริมาณและลักษณะของประจำเดือน สีเข้มหรือจาง มีลิ่มเลือดหรือไม่
- อาการที่เกิดขึ้นระหว่างรอบเดือน เช่น ปวดท้อง ปวดหัว คลื่นไส้ อารมณ์แปรปรวน
- ความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เช่น สิวขึ้น น้ำหนักเปลี่ยนแปลง
การจดบันทึกสม่ำเสมอช่วยให้เข้าใจร่างกายตัวเอง และสามารถแจ้งแพทย์ได้หากมีความผิดปกติ
3. ใช้วิธีไหนจดบันทึกรอบเดือนได้บ้าง
- ใช้แอปพลิเคชันติดตามรอบเดือน เช่น Flo, Clue, Period Tracker
- จดบันทึกลงสมุดหรือแพลนเนอร์ สำหรับคนที่ชอบจดด้วยมือ
- ใช้ปฏิทินประจำตัว ทำเครื่องหมายวันแรกและวันสุดท้ายของประจำเดือน
4. รอบเดือนผิดปกติ ควรทำอย่างไร
- ประจำเดือนขาดหายไปมากกว่า 3 เดือน โดยไม่ได้ตั้งครรภ์
- รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ หรือมาน้อยผิดปกติ
- มีเลือดออกกระปริดกระปรอยตลอดทั้งเดือน
- ปวดท้องรุนแรงผิดปกติทุกครั้งที่มีประจำเดือน
หากพบอาการเหล่านี้ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ
5. เริ่มจดบันทึกรอบเดือนตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
ไม่ใช่แค่วางแผนการตั้งครรภ์ หรือยุติการตั้งครรภ์ แต่การรู้จักรอบเดือนของตัวเองจะช่วยให้เราดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับรอบเดือน หรือสุขภาพทางเพศ ติดต่อเราได้ที่นี่ ระบบปรึกษาท้องไม่พร้อม RSA Online : https://abortion.rsathai.org
Line Official : @rsathai , Inbox Facebook Page : rsathai
บริการให้คำปรึกษาออนไลน์ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00-19.00 น.