หากคุณตัดสินใจตั้งครรภ์ต่อ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การดูแลสุขภาพของตัวเองและลูกในครรภ์ เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนและเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอด
1. ฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด
- ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพและฝากครรภ์ให้เร็วที่สุดเมื่อตัดสินใจท้องต่อ
- การฝากครรภ์ช่วยให้แพทย์สามารถติดตามสุขภาพของแม่และลูก และให้คำแนะนำที่เหมาะสม
- สามารถใช้ สิทธิ์บัตรทอง หรือประกันสังคม เพื่อรับบริการฝากครรภ์ได้
2. ตรวจสุขภาพที่จำเป็นในแต่ละช่วงอายุครรภ์
ไตรมาสที่ 1 (1-12 สัปดาห์)
- ตรวจเลือดและหมู่เลือด
- ตรวจคัดกรองภาวะดาวน์ซินโดรมและโรคทางพันธุกรรม
- ตรวจคัดกรองโรคติดเชื้อ เช่น HIV ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบ
- ตรวจอัลตราซาวด์เพื่อดูตำแหน่งของถุงการตั้งครรภ์
ไตรมาสที่ 2 (13-27 สัปดาห์)
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเพื่อป้องกันเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- ตรวจอัลตราซาวด์เพื่อดูพัฒนาการของทารก
ไตรมาสที่ 3 (28-40 สัปดาห์)
- ตรวจสุขภาพของแม่ เช่น ความดันโลหิต และระดับธาตุเหล็ก
- ตรวจเชื้อแบคทีเรีย Group B Streptococcus (GBS) ซึ่งอาจส่งผลต่อการคลอด
- ประเมินสุขภาพของทารกและเตรียมตัวสำหรับการคลอด
3. การดูแลสุขภาพตัวเองระหว่างตั้งครรภ์
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นโปรตีน ธาตุเหล็ก และแคลเซียม
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงคาเฟอีน แอลกอฮอล์ และบุหรี่
- ออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินหรือโยคะสำหรับคนท้อง
- พักผ่อนให้เพียงพอ และลดความเครียด
4. รู้จักอาการผิดปกติที่ต้องพบแพทย์ทันที
หากมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์ทันที
- เลือดออกผิดปกติ หรือปวดท้องรุนแรง
- ทารกดิ้นน้อยลง หรือไม่ดิ้นเลย
- มีอาการบวมมากผิดปกติ หรือความดันโลหิตสูง
5. ต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ที่นี่
RSA Online : https://abortion.rsathai.org
Line Official : @rsathai , Inbox Facebook Page : rsathai
บริการให้คำปรึกษาออนไลน์ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00-19.00 น.
หากคุณเลือกท้องต่อ อย่าลืมดูแลตัวเองให้ดี ตรวจสุขภาพให้ครบ เพื่อลูกที่แข็งแรงและปลอดภัย