ยาคุมฉุกเฉิน คืออะไร?
ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่ใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ “ภายหลัง” จากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือเมื่อวิธีคุมกำเนิดที่ใช้อยู่ล้มเหลว เช่น ถุงยางรั่ว ลืมกินยาคุมปกติ ฯลฯ ไม่ควรใช้เป็น “ยาคุมประจำ” และไม่ควรใช้บ่อย เพราะยานี้มีฮอร์โมนในปริมาณสูง
กินเมื่อไหร่ถึงได้ผล?
- ภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ (ยิ่งเร็ว ยิ่งได้ผล)
- ควรกินให้ครบตามจำนวนเม็ดที่ระบุ (แบบ 1 เม็ด หรือ 2 เม็ดห่างกัน 12 ชั่วโมง)
- หากอาเจียนใน 2 ชั่วโมงหลังกินยา อาจต้องกินซ้ำ
ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้ “ยุติการตั้งครรภ์”
ยานี้ทำงานโดยยับยั้งการตกไข่ หรือเปลี่ยนสภาพมูกปากมดลูกและเยื่อบุโพรงมดลูก เพื่อไม่ให้เกิดการปฏิสนธิ หากไข่ได้รับการปฏิสนธิและฝังตัวแล้ว ยาจะไม่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เวียนหัว อ่อนเพลีย
- เลือดออกกะปริดกะปรอย
- รอบเดือนคลาดเคลื่อน (มาเร็วหรือช้ากว่าปกติ)
- ปวดท้องหรือคัดหน้าอก
หากรอบเดือนขาดเกิน 3 สัปดาห์หลังใช้ยา ควรตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความแน่ใจ
แล้วควรใช้บ่อยแค่ไหน?
แม้ยาคุมฉุกเฉินจะปลอดภัยหากใช้ถูกวิธี แต่ ไม่ควรใช้เกิน 2 ครั้งต่อรอบเดือน เพราะจะทำให้รอบเดือนรวน และลดประสิทธิภาพของยาได้
ถ้าไม่อยากท้อง ควรคุมกำเนิดแบบไหน?
ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์เป็นประจำ ควรเลือกใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้ต่อเนื่อง เช่น
- ยาคุมกำเนิดรายเดือน
- ถุงยางอนามัย
- ยาฝังคุมกำเนิด
- ยาฉีดคุมกำเนิด
- ห่วงอนามัย
หากไม่แน่ใจ หรือมีข้อสงสัย? คุณสามารถพูดคุยกับผู้ให้คำปรึกษาได้โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน มีหลายช่องทางที่ปลอดภัยและเป็นมิตร
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการคุมกำเนิดหรือตั้งครรภ์ไม่พร้อม ติดต่อเราได้ที่นี่
ระบบปรึกษาท้องไม่พร้อม RSA Online : https://abortion.rsathai.org
Line Official : @rsathai
Inbox Facebook Page : rsathai
บริการให้คำปรึกษาออนไลน์ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00-19.00 น.