ศีลธรรมกับการทำแท้ง…ศีลธรรมเรื่องแท้งอยู่ที่ไหน
สองสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงเวลาของการตามหาชีพจรของตัวเอง ไหนจะไปกรุงเทพ พัทยา ไปๆ มาๆ หาดใหญ่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าต้องไปเป็นวิทยากรในประเด็นที่คาบเกี่ยวกับศีลธรรมอย่างแรง เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่า สัปดาห์ที่แล้ว ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยได้จัดงานประชุมวิชาการประจำปีขึ้นที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ จอมเทียน ในวันที่ 13-15 ตุลาคม และในวันที่ 12 นั้น ได้มี precongress workshop ก่อนหนึ่งวัน ซึ่งก็มีหลายเรื่องหลายห้องมากจนผมเองก็ยังจำได้ไม่หมดเลย แต่ที่จำได้แน่ๆ...
สิทธิ์ของการทำแท้ง
บทเรียนจากการใช้ข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ ตามมาตรา ๓๐๕ แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๔๘ นี่ก็ครบขวบปีที่สองแล้วสำหรับข้อบังคับที่ส่งผลต่ออนามัยการเจริญพันธุ์ของสตรีไทยฉบับนี้ ผมก็ยังไม่วายที่จะมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสมาชิกทุกท่านอีกเช่นเคย ก่อนอื่นขออนุญาตทบทวนกันสักนิดว่า ในมาตรา 305 ที่เราๆพยายามทำความคุ้นเคยกันอยู่นั้นประกอบด้วย 2 วรรค วรรคแรกก็คือ การยุติการตั้งครรภ์ที่ครรภ์นั้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมารดา อย่าลืมนะครับว่า คำว่าสุขภาพตามนิยามขององค์การอนามัยโลกนั้น รวมถึงสุขภาพกายและใจ
การใช้ข้อบังคับแพทยสภาฯนั้น ระบุว่า ในกรณีสุขภาพทางจิตนั้น แพทย์สามารถให้การวินิจฉัยได้เลยโดยที่ไม่ต้องปรึกษาจิตแพทย์ (อย่าลืมว่าเราก็จบพบ.มาเหมือนกัน) และในกรณีที่ทารกในครรภ์มีความพิการรุนแรงนั้น ในข้อบังคับฯก็ระบุว่า...
ทำแท้ง และซุปร้านเจ๊ ภาค ๓
เมื่อวานครับ... “แม่รู้สึกไม่ค่อยสบายเลยพ่อ ทำข้าวเย็นไม่ไหว และไม่อยากขับรถออกไปกินนอกบ้าน” เสียงคนสำคัญบ่นให้ฟัง ผมอังมือไปที่แขนและหน้าผากเธอ ก็เย็นเฉียบ ออใช่ เมียเพิ่งขับรถเข้ามา งั้นก็เอามือล้วงไปยังหลังเสื้อ สอดมือเข้าไปตามแผ่นหลัง กะจะปลดตะขอยกทรงก็กลัวถูกด่า
“ก็ไม่ร้อนนะแม่” ผมทำตัวเป็นปรอทวัดไข้ “เอางี้ บอกลูกสาวว่าป่วย ให้ทั้งคู่จัดการอาหารให้แม่ไปเลยนะ” ผมเสนอ เมียจ้องหน้า เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง “ไม่ต้องงง บอกลูก ว่าแม่ป่วย” ผมตัดบท แล้วขับรถออกไปคลินิก
วันนี้แปลก...
“..ทำแท้งคือการรักษา เป็นหมอก็ต้องรักษาคน..”
“คุณหมอที่อยู่ภาคใต้นั่น ดูเขาภูมิใจเสียนักหนา ว่าเป็นหมอทำแท้ง” มีเสียงกระซิบมาให้แอบได้ยินอย่างนั้น“ครับ ก็ทำแท้งคือการรักษาคนไงครับ เป็นหมอก็ต้องรักษาคน” ผมตอบกลับไป ทั้งๆ ที่ยังไม่แน่ใจนักว่าคุณหมอที่อยู่ภาคใต้คนนั้นจะใช่ผมในบทสนทนาหรือเปล่า “เขายังภูมิใจว่าได้เป็นวิทยากร” นั่นไง มันใกล้ผมเข้าไปอีก เพราะไอ้คนที่อยู่ภาคใต้และมักเป็นวิทยากรจะเหลืออยู่สักกี่คน เหมือนเล่นเกมโชว์ทายชื่อดาราทางทีวีเข้าไปทุกที“ครับ การป้องกันไม่ให้ผู้หญิงที่จะไปทำแท้งจริงๆ ถูกทำแท้งเถื่อนจนเกิดอันตรายต่อร่างกายและชีวิต มันก็น่าจะเป็นหน้าที่ที่สำคัญของหมออีกเช่นเดียวกัน และหนึ่งในนั้นคือการทำแท้งให้อย่างปลอดภัยและป้องกันการท้องใหม่ให้เรียบร้อย” ผมยังจำวงล้อของงานอนามัยการเจริญพันธ์ุที่ครูสอนได้ว่า การแท้งที่ปลอดภัยมันคือหนึ่งในงานของวงล้อนั้น และเรื่องแท้งนี่แหละ ที่ไม่ค่อยมีหมอคนไหนอยากเข้ามาข้องเกี่ยว“สวัสดีค่ะคุณหมอ”หนูได้อ่านที่คุณหมอเขียนเกี่ยวกับการทำแท้งนั้นหนูคือคนหนึ่งที่เกิดอุบัติเหตุนั้น ทุกวันนี้บาปติดในใจหนูเสมอในทุกวันเวลาเชื่อผมสิครับ ไม่มีใครมีความสุขใจในการทำแท้งเอาลูกตัวเองออกมาหรอกครับ...
เพศสัมพันธ์กันปีละครั้ง
“หมอรู้ไหม บางทีฉันก็ต้องถามตัวเอง ว่าเรากำลังข่มขืนสามีอยู่รึเปล่า” เธอเป็นคนเปิดประโยคนี้ออกมาก่อนที่ผมจะได้อธิบายว่าการตรวจภายในไปเมื่อครู่นั้นพบเจออะไรบ้าง
“หมอจำฉันได้ไหม ฉันเคยมาหาหมอเมื่อคราวก่อนเพื่อจะให้หมอทำรีแพร์ให้” เธอยังคงเรียกสติผมให้กลับมาสู่การสนทนา หลังจากที่เห็นผมทำท่าตะลึงจากบทสนทนาแรก
“จำได้สิ” ตอบว่าจำได้ เพราะเหลือบมองในประวัติเก่า ผมเขียนบันทึกการรักษาเอาไว้“ทำไมจะจำไม่ได้ เธอคือคนที่หมอบอกว่าจิ๋มปกติ จิ๋มของเธอหนีบได้แรงดี และท้ายที่สุดก็ไม่ยอมทำรีแพร์ให้” เธอยิ้มและพยักหน้า
“หมอยังพูดว่า หากจะให้จิ๋มเล็กกว่านี้ ก็เป็นรูตูดแล้ว” เธอแทบจะพูดประโยคนี้ขึ้นมาพร้อมผม
“ใช่ ผมก็ยังจำเรื่องราวนั้นได้” จะว่าไป ที่จำได้ก็เพราะในค่ำวันนั้น ผมได้เขียนเรื่องราวของเธอบันทึกเอาไว้ในรูปแบบเรื่องสั้นนั่นเอง ผมจำทุกเรื่องที่เขียนลงไปได้เสมอ และผมบอกเธอไปว่า “เมียไม่ใช่นางบำเรอ”
“ฉันไม่ได้จำจิ๋มของเธอเอาไว้หรอกนะ...
ไม่มีทางเท่ากัน – ท้องไม่พร้อม
“เมฆบนฟ้าช่างน่ามอง” ไม่ใช่สิ ผมควรจะบอกว่า เมฆที่อยู่ต่ำลงไปนั้นช่างน่ามอง ไหนจะเมฆที่เรียงตัวเป็นแถวเหมือนเด็กประถมเข้าแถวหน้าเสาธง วันนี้แถบเพชรบุรีมีอย่างน้อยก็ ๒ แถว ครั้นพอเข้ากรุงเทพฯ ช่วงสายวันนี้ไม่มีเมฆ แต่ชั้นของบรรยากาศทำให้เห็นได้เลยว่า ฝุ่นพีเอ็ม ๒.๕ นั้น มันน่ากลัวขนาดไหน
ผมมากรุงเทพฯ เพื่อขึ้นเวทีพูดเรื่อง “ทำแท้ง” เนื่องในวันทำแท้งสากล มีเวลาให้พูดเพียง ๔๕ นาที ด้วยเนื้อหาที่เป็นแอปสแตร็กหน่อยๆ นั่นคือ “แท้งคือเรื่องของสุขภาพ”
เตรียมตัวนานเหมือนกันนะครับ...
หน้าที่ที่ยิ่งใหญ่
จะดีแค่ไหน ถ้าเรารู้สึกได้ตลอดเวลาว่า หน้าที่ที่เราทำอยู่นั้นมันยิ่งใหญ่หมอ กำลังช่วยให้ผู้เจ็บป่วยได้กลับบ้านไปพบญาติพี่น้องที่เขารักอีกครั้งพยาบาล ได้มีโอกาสประคับประคองและช่วยเหลือดูแลผู้ป่วย ประหนึ่งญาติมิตรของตน ไม่มีพยาบาล หมอทำงานลำบากเหลือเกิน ไม่มีพยาบาล คนไข้อาจเคว้งคว้างเภสัชกร ได้มีโอกาสจัดสรรและคัดเลือกยาที่ดีและปลอดภัยที่สุดแก่คนที่กำลังเจ็บป่วย เป็นฟันเฟืองที่สำคัญของการแพทย์ในปัจจุบันโภชนากร ได้มีโอกาสใช้ความรู้ของตน ในการจัดการด้านอาหารแก่ผู้ป่วยเฉพาะคน เฉพาะโรค เป็นหนึ่งในการรักษาที่ไม่ต้องใช้ยา คงมีไม่กี่คนที่จะทำหน้าที่แบบนี้ได้เจ้าหน้าที่ขนย้ายผู้ป่วย หรือ เวรเปล ได้มีโอกาสบริการผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินเองได้ไปยังที่ต่างๆ เรากำลังปลดปล่อยทุกข์ของผู้ที่ยังช่วยเหลือตัวเองลำบาก เรากำลังให้อิสระภาพแก่คนหลายคนที่จะได้ไปยังที่ต่างๆทั้งๆ ที่ร่างกายตนไม่สามารถทำได้ในขณะนั้น
แม่บ้าน...
นักเรียนแพทย์รุ่นใหม่ให้ดูดแทนขูด เพื่อรักษาการแท้ง เพื่อวินิจฉัยมะเร็งในโพรงมดลูก
ถ้าใครสักคนจะต้องถูกขูดมดลูก กรุณาช่วยถามหมอสักนิด ว่าหมอจะขูดด้วยเหล็กขูดหรือจะดูดด้วยหลอดพลาสติก
เอาล่ะ มาเริ่มกัน
ถาม: ใครกัน ที่จะต้องถูกขูดมดลูก?
ตอบ: ผู้หญิง
เออ แน่ดิ ผู้ชายมันไม่มีมดลูกนี่นา ถึงแม้จะผ่าตัดแปลงเพศมาจนมีจิ๋มได้แล้ว มันก็ยังไม่มีมดลูก จะขูดหรือดูดในรูตูด มันก็ไม่ใช่กิจกรรมทางการแพทย์สักหน่อย
เราขูดหรือดูดโพรงมดลูกเพื่อการรักษาหรือวินิจฉัยโรคเท่านั้นครับ เป็นต้นว่า การตั้งท้องผิดปกติก็ทำแท้งซะ แท้งไม่ครบก็ดูดออกให้ครบซะ นี่คือการรักษา แต่หากเป็นการวินิจฉัย อันที่จริงก็ทำแบบเดียวกัน นั่นคือขูดหรือดูดเอาโพรงมดลูกออกมาเพื่อให้ได้ชิ้นเนื้อแล้วพาไปตรวจดูว่ามันเป็นมะเร็งหรือไม่ หลักๆก็มีเพียงเท่านี้
แล้วทำไมผมจึงจั่วหัวว่า ขูดหรือดูด
นั่นเพราะสมัยก่อน เรามีเทคโนโลยีในเรื่องแบบนี้ไม่มาก เราจึงใช้เครื่องมือที่เป็นเหล็กคมๆ...