ยาคุมฉุกเฉินควรใช้เมื่อไหร่
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน เป็นยาที่ใช้ในกรณีมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือป้องกันแล้วแต่ผิดพลาด เช่น ถุงยางรั่วหรือหลุด ลืมกินยาคุมปกติ
ยาคุมฉุกเฉินมี 2 แบบ
แบบ 1 เม็ด กินทันทีหรือภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์
แบบ 2 เม็ด กินได้ 2 วิธีเม็ดแรกทันทีหรือภายใน 72 ชั่วโมง เม็ดที่สองหลังจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง
กิน 2...
หลั่งนอกก็ทัน แต่ทำไมท้อง
หลายคนเชื่อว่า "ถ้าไม่หลั่งข้างใน ก็ไม่ท้อง" แต่ความจริงคือ ยังมีโอกาสท้องได้ แม้จะหลั่งนอกทัน เพราะในน้ำหล่อลื่นที่ออกมาก่อนการหลั่ง อาจมีอสุจิปะปนอยู่ และอสุจิเหล่านั้นก็สามารถเดินทางไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทันที ยิ่งไปกว่านั้น การควบคุมการหลั่งอย่างแม่นยำไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะในสถานการณ์จริงที่อาจมีความตื่นเต้นหรือควบคุมตัวเองไม่ได้ทัน ดังนั้น การหลั่งนอกไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่ปลอดภัย และไม่ควรใช้เป็นวิธีคุมกำเนิดหากคุณยังไม่พร้อมจะมีบุตร
วิธีที่ปลอดภัยกว่าคือ ถุงยางอนามัย, ยาคุมเม็ด, ยาฝัง, ห่วงอนามัย
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ติดต่อเราได้ที่นี่ระบบปรึกษาท้องไม่พร้อม RSA Online : https://abortion.rsathai.orgหรือ Line...
อาการหลังยุติการตั้งครรภ์ที่ปกติ และสัญญาณผิดปกติที่ควรรีบพบแพทย์
หลังการยุติการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะด้วยการใช้ยา หรือการดูดสุญญากาศ ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ควรรู้เท่าทัน เพื่อดูแลตัวเองได้อย่างปลอดภัย และสังเกตสัญญาณที่อาจต้องพบแพทย์
อาการหลังยุติการตั้งครรภ์ที่ถือว่าปกติ
เลือดออกคล้ายประจำเดือน อาจมีเลือดออกนาน 1–2 สัปดาห์ โดยจะค่อย ๆ น้อยลง
อาการปวดท้องน้อย รู้สึกปวดคล้ายการปวดประจำเดือน ซึ่งเป็นผลจากการบีบตัวของมดลูก
อารมณ์เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อาจมีอารมณ์เศร้า สับสน หรือเหนื่อยง่าย เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ประจำเดือนรอบถัดไป มักจะกลับมาภายใน 4–8 สัปดาห์หลังยุติการตั้งครรภ์
หมายเหตุ:อาการเหล่านี้ควรค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ หากพักผ่อนเพียงพอ...
ยาคุมรายเดือน vs ยาคุมฉุกเฉิน ต่างกันยังไง? เลือกใช้ให้ถูกวิธี
หลายคนอาจสงสัยว่า "ยาคุมรายเดือน" และ "ยาคุมฉุกเฉิน" ต่างกันอย่างไร? และควรเลือกใช้อย่างไรให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์อย่างได้ผล การทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้ จะช่วยให้คุณวางแผนการคุมกำเนิดได้เหมาะกับตัวเองที่สุด
ยาคุมรายเดือน คืออะไร?
ลักษณะการใช้:
กินทุกวัน วันละ 1 เม็ด ในเวลาใกล้เคียงกัน
ใช้ต่อเนื่องเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์เป็นประจำ
ข้อดี:
มีประสิทธิภาพสูง หากกินตรงเวลา
ช่วยควบคุมรอบเดือน ลดอาการปวดประจำเดือน และสิวในบางราย
ข้อควรรู้:
ต้องกินอย่างสม่ำเสมอ ไม่ลืมกิน
หากลืมกิน อาจต้องใช้วิธีเสริม เช่น ถุงยางอนามัยในช่วงที่เสี่ยง
ยาคุมฉุกเฉิน คืออะไร?
ลักษณะการใช้:
กินภายใน 72 ชั่วโมง...
ทำหมันแล้วเปลี่ยนใจ อยากมีลูกอีก ทำได้หรือไม่
การทำหมันทั้งชายและหญิงเป็นวิธีคุมกำเนิดถาวรที่หลายคนเลือก เพราะมั่นใจว่าจะไม่ต้องการมีลูกอีก แต่เมื่อเวลาผ่านไป บางคนอาจเปลี่ยนใจ และอยากกลับมามีลูกอีก
ย้อนกลับการทำหมัน ทำได้ไหม
ทำได้บางกรณี แต่ไม่การันตีว่าจะสำเร็จ
ทำหมันชาย (vasectomy) มีโอกาสผ่าตัดเชื่อมท่อนำอสุจิกลับมาได้
ทำหมันหญิง (tubal ligation) การผ่าตัดเชื่อมท่อนำไข่กลับทำได้ยากกว่า และสำเร็จน้อยกว่าฝ่ายชาย
ความสำเร็จของการผ่าตัดขึ้นอยู่กับ
อายุของผู้ทำหมัน
ระยะเวลาที่ทำหมันมาแล้ว
เทคนิคที่ใช้ตอนทำหมันครั้งแรก
ความแข็งแรงของอวัยวะสืบพันธุ์ในปัจจุบัน
หากย้อนกลับไม่ได้ ยังมีทางเลือกอื่นไหม
การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ใช้ได้ในกรณีทำหมันแล้ว
ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านมีบุตรยาก เพื่อประเมินโอกาสสำเร็จ
ข้อคิดก่อนทำหมัน
การทำหมันควรเป็นการตัดสินใจที่แน่ชัด ผ่านการพูดคุยกับแพทย์และคู่ชีวิตหากยังไม่แน่ใจ ควรเลือกวิธีคุมกำเนิดที่ไม่ถาวรก่อน เช่น ยาฝัง ห่วงอนามัย หรือยาคุม
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ติดต่อเราได้ที่นี่ระบบปรึกษาท้องไม่พร้อม...
ข้อดีและข้อเสียของการทำหมันถาวร
การทำหมันเป็นวิธีคุมกำเนิดแบบถาวร เหมาะกับผู้ที่แน่ใจว่าจะไม่มีบุตรอีก โดยมีทั้งข้อดีและข้อควรระวังที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ
ข้อดีของการทำหมัน
คุมกำเนิดได้ถาวร ไม่ต้องกินยา ไม่ต้องใช้ถุงยาง
ลดความกังวล เรื่องพลาดลืมกินยา หรือการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ
ไม่มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศ หรือการมีประจำเดือน
ประหยัดในระยะยาว ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ้ำทุกเดือน
ข้อเสียและข้อควรระวัง
ไม่สามารถมีลูกได้อีก ย้อนกลับได้ยากหรือไม่ได้เลย
อาจเสียใจภายหลัง หากเปลี่ยนใจหรือสถานการณ์ชีวิตเปลี่ยน
ไม่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
เหมาะกับใคร
คู่รักที่มั่นใจว่าจะไม่ต้องการมีลูกอีก
ผู้ที่มีภาวะสุขภาพที่ไม่เหมาะต่อการตั้งครรภ์
ผู้ที่เคยตั้งครรภ์ไม่พร้อมและต้องการป้องกันซ้ำ
การทำหมันควรทำโดยสมัครใจ และผ่านการพูดคุยกับแพทย์อย่างรอบด้าน
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ติดต่อเราได้ที่นี่ระบบปรึกษาท้องไม่พร้อม RSA Online : https://abortion.rsathai.orgหรือ Line Official : @rsathaiบริการให้คำปรึกษาออนไลน์ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00-19.00...
คู่รักวางแผนชีวิต ทำหมันใคร…เลือกอย่างไรให้เหมาะ
เมื่อคู่รักตัดสินใจแน่ชัดว่าจะไม่ต้องการมีบุตรอีก การทำหมันคือหนึ่งในวิธีคุมกำเนิดแบบถาวรที่มีประสิทธิภาพสูง แต่คำถามคือ ควรทำหมัน “ฝ่ายหญิงหรือฝ่ายชาย” แบบไหนเหมาะและปลอดภัยกว่ากัน
ทำหมันชาย (vasectomy)
เป็นการตัดและปิดท่อนำอสุจิ
ใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องวางยาสลบ
ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน ฟื้นตัวเร็ว
ความเสี่ยงน้อยและภาวะแทรกซ้อนต่ำ
ยังมีการหลั่งน้ำเชื้อปกติ แต่ไม่มีอสุจิ
ทำหมันหญิง (tubal ligation)
เป็นการผูกหรือปิดท่อนำไข่
ต้องผ่าตัดเล็ก ใช้วิธีวางยาสลบหรือบล็อกหลัง
กระบวนการซับซ้อนกว่า ฟื้นตัวช้ากว่า
มีความเสี่ยงจากการดมยาสลบหรือผ่าตัดมากกว่า
จะเลือกทำหมันฝ่ายไหนดี
ถ้าคู่รักมองเรื่อง ความเสี่ยงและความสะดวก ทำหมันชายมักเหมาะกว่า
ถ้าฝ่ายหญิงเข้ารับการผ่าตัดคลอดอยู่แล้ว อาจพิจารณาทำหมันหญิงไปพร้อมกันได้
การพูดคุยร่วมกันของทั้งสองฝ่ายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
การทำหมันคือการตัดสินใจระยะยาว ควรแน่ใจว่าไม่มีแผนจะมีลูกอีก และควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ติดต่อเราได้ที่นี่ระบบปรึกษาท้องไม่พร้อม RSA Online : https://abortion.rsathai.orgหรือ Line...
ใส่ห่วงอนามัยแล้ว มีผลข้างเคียงหรือไม่
ห่วงอนามัย หรือ IUD เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ใช้ได้นาน แต่หลายคนอาจเกิดข้อสงสัยว่าใส่ห่วงแล้วจะมีผลข้างเคียงหรือไม่
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ (แต่ไม่ใช่ทุกคนจะเป็น)
ปวดท้องน้อยหรือปวดเกร็ง คล้ายปวดประจำเดือน ในช่วง 1-3 วันแรกหลังใส่
เลือดออกกระปริบกระปรอย หรือประจำเดือนมามากกว่าปกติ โดยเฉพาะห่วงชนิดไม่มีฮอร์โมน
อาการเวียนหัว อ่อนเพลียเล็กน้อย เป็นผลจากการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอม
สิวขึ้นหรืออารมณ์แปรปรวน ในกรณีใช้ห่วงชนิดมีฮอร์โมน (พบได้น้อย)
อาการผิดปกติที่ควรไปพบแพทย์
เลือดออกมากผิดปกติ
ปวดท้องรุนแรง
มีไข้ หนาวสั่น หรือตกขาวมีกลิ่น
คลำไม่เจอสายห่วง หรือรู้สึกว่าห่วงหลุด
การดูแลตัวเองหลังใส่ห่วง
งดเพศสัมพันธ์ในช่วง 7 วันแรก
หลีกเลี่ยงการยกของหนักหรือออกแรงมากใน 1-2 วัน
ตรวจติดตามตามนัดเพื่อประเมินตำแหน่งของห่วง
โดยรวมแล้ว...
เลือกวิธียุติการตั้งครรภ์ แบบไหนเหมาะกับคุณ?
เมื่อต้องตัดสินใจเกี่ยวกับ การยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย หนึ่งในคำถามสำคัญคือ ควรเลือก "ยุติด้วยยา" หรือ "ดูดสุญญากาศ" ดี? ทั้งสองวิธีมีข้อดี ข้อควรรู้ และความเหมาะสมแตกต่างกัน การเข้าใจข้อมูลจะช่วยให้คุณเลือกทางที่เหมาะกับตัวเองที่สุด
ยุติการตั้งครรภ์ด้วยยา
เหมาะสำหรับ:
ผู้ที่มีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์
ขั้นตอน:
รับประทานยาตามแนวทางของแพทย์ เพื่อให้เกิดการบีบตัวของมดลูก และขับเนื้อเยื่อออกมา
ในบางกรณีสามารถ รับยาไปใช้ที่บ้านได้ ผ่านระบบการดูแลที่ปลอดภัย เช่น RSA Prompt
ข้อดี:
ไม่ต้องทำหัตถการ
มีความเป็นส่วนตัวสูง สามารถดูแลตัวเองที่บ้านได้ (ในระบบที่ปลอดภัย)
เลียนแบบกระบวนการแท้งตามธรรมชาติ
ข้อควรรู้:
อาจมีอาการปวดท้อง หรือเลือดออกนานกว่าวิธีดูดสุญญากาศ
จำเป็นต้องติดตามอาการและตรวจยืนยันภายหลังการใช้ยา
ยุติการตั้งครรภ์ด้วยวิธีดูดสุญญากาศ
เหมาะสำหรับ:
อายุครรภ์...
อายุครรภ์เกิน หมอไม่ยุติให้ แล้วถ้าไม่พร้อมเลี้ยงจะทำยังไง?
เมื่ออายุครรภ์เกินเกณฑ์ที่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ และคุณรู้สึกว่า ยังไม่พร้อมเลี้ยงดูบุตร อย่าเพิ่งรู้สึกว่าต้องเผชิญปัญหานี้เพียงลำพัง ยังมีทางเลือกและหน่วยงานที่พร้อมช่วยเหลือคุณอย่างปลอดภัย
หากอายุครรภ์เกินแล้วไม่พร้อมเลี้ยง ควรทำอย่างไร?
1. ติดต่อศูนย์พึ่งได้ (OSCC) ของโรงพยาบาลรัฐ ศูนย์พึ่งได้เป็นหน่วยงานที่ให้การดูแลผู้ที่ประสบปัญหาทางสังคมและครอบครัว สามารถขอคำปรึกษาเรื่อง
การวางแผนชีวิตหลังคลอด
ทางเลือกในการยกมอบบุตรเพื่อให้บุคคลอื่นเลี้ยงดู
การฝากเลี้ยงชั่วคราวในสถานรับดูแล
2. โทรสายด่วน 02-929-2222 บริการให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง ดูแลโดยทีมจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์มืออาชีพ
3. ประเมินความพร้อมทางร่างกายและจิตใจ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจะช่วยคุณวางแผนว่า จะดูแลบุตรด้วยตัวเองหรือไม่ หรือมีทางเลือกอื่นที่เหมาะสมกับชีวิตคุณในระยะยาว
คุณไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว
แม้จะไม่สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้แล้ว แต่คุณยังมีสิทธิ์ขอรับการดูแลที่ปลอดภัย และมีเครือข่ายที่พร้อมช่วยเหลือให้คุณได้ตัดสินใจด้วยข้อมูลที่ครบถ้วนที่สุด
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ติดต่อเราได้ที่นี่...