เมื่อเดือนธันวามี่ผ่านมานี้เอง ลุงหมอได้ข่าวจากคลินิกวัยรุ่นของโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งว่า มีวัยรุ่นอายุ 17 ปี มาปรึกษาว่าทำแท้งด้วยตนเองแต่ไม่สำเร็จ เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้เธอท้องได้ 13 สัปดาห์แล้ว
ก่อนอื่น ลุงหมออยากรู้ว่าหลานๆ นับว่าท้องกี่สัปดาห์นับยังไง ถ้าจำประจำเดือนได้นะครับ ก็เริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่เป็นประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย ซึ่งประจำเดือนต้องมีลักษณะเลือดออกทั้งวันนาน 2-5 วัน ไม่ใช่เลือดออกเล็กๆ น้อยๆ เป็นวันเดียวหรือสองวันนะครับ แล้วก็นับมาจนถึงวันปัจจุบัน ก็จะได้เป็นจำนวนวันและหารด้วย 7 ก็ได้จำนวนสัปดาห์ ซึ่งยืนยันการท้องด้วยการตรวจปัสสาวะทดสอบการตั้งครรภ์ สามารถตรวจได้หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกัน 14 วัน หรืออีกวิธีหนึ่งคือ หลังจากขาดประจำเดือน 7 วันก็ได้ แต่ถ้าให้แน่ใจในอายุครรภ์ก็ต้องให้คุณหมอตรวจอัลตร้าซาวน์
เอ้า เล่าต่อนะ วัยรุ่นคนนั้น ได้สั่งยาทำแท้งทางอินเทอร์เน็ตช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน จำนวน 4 เม็ด ในราคา 3,000 บาท มีคำแนะนำให้กินครั้งละ 2 เม็ดห่างกัน 12 ชั่วโมง น้องเขาได้กินยาตามนั้น ผลคือไม่มีอาการปวดท้องเลือดออก ได้ความว่าสั่งทางไลน์ชื่อคลินิกวัยรุ่น 24 ชั่วโมง
ลุงหมอเห็นใจนะเรื่องนี้ อยากให้รู้เท่าทันระวังกันไว้ ถ้าวิเคราะห์แล้วจะเป็นการใช้ยายุติการตั้งครรภ์ที่ยังไม่ถูกวิธีตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก คือ 1) ใช้ยาตัวเดียว 2) ปริมาณยาไม่ถูกต้อง 3) ระยะห่างของการใช้ยาไม่ถูกต้อง ทำให้โอกาสแท้งจึงมีน้อย แล้วยังอาจเป็นยาปลอม หรือ ตัวยาไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ขนาดยาไม่ถูกต้องก็ได้ เป็นเรื่องยากที่วัยรุ่นจะดูออกว่าเว็บไซต์ไหนจะให้ยาดีไม่หลอกลวงเพราะมีมากมาย เป็นความเสี่ยงทั้งเสียเงินและเสียความรู้สึกสำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องไม่พร้อมที่พยายามช่วยเหลือตัวเองหาข้อมูลหาซื้อยามาเองอาจได้ผลหรือไม่ได้ผล ถ้าจะแน่ใจให้โทรปรึกษาหมอที่ดูแลการท้องไม่พร้อมตัวจริงเลยดีไหม หรือ ถามมาที่ เว็บไซต์เลิฟแคร์ หรือโทรไปปรึกษาที่ 1663 ก็ได้
เรื่องความปลอดภัยจากการแท้ง การใช้ยาให้ได้ผลเป็นสิ่งที่วัยรุ่นจำเป็นต้องรู้และใส่ใจเป็นอันดับแรก รู้คือรู้ว่าจะเกิดอาการอะไร เตรียมตัวที่จะเผชิญภาวะฉุกเฉินได้อย่างดีพอ บอกตัวเองได้ไหมว่ากล้าและมั่นใจ จะมีใครอยู่ด้วยไหมที่พร้อมเป็นเพื่อนและดูแลทุกอย่าง สถานที่ที่จะรอให้แท้งกับโรงพยาบาลห่างกันมากไหม ใช้เวลาเดินทางไปถึงโรงพยาบาลไม่ควรเกินหนึ่งชั่วโมง และเมื่อไรควรจะไปโรงพยาบาลด้วยอาการแบบไหน
ลุงหมอขอเล่าอาการของการแท้งที่เกิดจากยาให้วัยรุ่นได้เรียนรู้เข้าใจ คือ
ยาจะออกฤทธิ์ภายใน 24 ชั่วโมง มักมีอาการข้างเคียงคือ ไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน จะมีปวดท้องน้อยมากขึ้นๆ เป็นชั่วโมงหลายชั่วโมง ปวดมากกว่าประจำเดือนมากนะครับ หลายคนทนไม่ได้ สู้ไม่ไหว เป็นลม ต่อมาจะมีเลือดสดๆ ไหลออกมาทางช่องคลอด มีน้ำใสๆ เหมือนปัสสาวะไหลปนออกมาด้วยนั่นเป็นน้ำคร่ำ เลือดออกมากขึ้น หรือปวดมากเหมือนปวดอุจจาระ แล้วมีความรู้สึกว่ามีก้อนอะไรหลุดออกมาจากช่องคลอด ถ้าไม่รู้ก็นึกว่าปวดอุจจาระแล้วเข้าห้องน้ำไปถ่ายปรากฏว่าตัวอ่อนหลุดตกลงมา บางคนมีเลือดออกเล็กน้อย
อย่างวัยรุ่นคนนี้ท้อง 13 สัปดาห์ ตัวอ่อนจะมีขนาดราว 7 ซม.
การที่เลือดอาจจะออกมากช่วงเจ็บท้องก่อนแท้งจึงอาจเป็นอันตรายได้ หลังแท้งแล้วเลือดจะไหลออกมากหรือน้อยขึ้นกับรก แต่อาการปวดจะลดน้อยลงกว่าเดิม โดยมดลูกจะบีบตัวเป็นระยะๆ จนกว่ารกจะออกมา ซึ่งบางครั้งรกก็หลุดออกมาพร้อมตัวอ่อน
แต่ถ้ารกจุกอยู่ที่ปากมดลูกก็จะปวดมากและมีเลือดออกมากขึ้น หรือ แม้ว่ารกค้างไม่หลุดลอกออกมาก็อาจมีเลือดไหลออกมากเช่นกัน ให้สังเกตุปริมาณเลือดออกให้ดีถ้าน้อยกว่าผ้าอนามัย 5 แผ่น ถือว่าไม่มาก รวมทั้งยังรู้สึกตัวยังดีอยู่ก็ยังปลอดภัย แต่ถ้าเลือดไหลสดๆ ตลอดเวลา รู้สึกวิงเวียนศรีษะ เหนื่อยเพลียมาก ก็อยู่ในระดับอันตรายมาก อันนี้เป็นสัญญานเลยว่า ต้องรีบให้คนช่วยเพื่อพาตัวเองไปโรงพยาบาล มีบางรายที่ไม่ตกเลือดมาก แต่มีรกค้างนานหลายส้ปดาห์ ก็จะทำให้ร่างกายซีดมากและทำให้ติดเชื้อในมดลูกได้
วัยรุ่นจะเลือกดูแลตัวเองแบบไหนดี กลัวคนอื่นรู้แล้วดูแลตนเองแบบที่ลุงหมอเล่ามาไม่ให้ใครรู้เห็น แบบนี้ก็เสี่ยงอันตรายมากนะครับ แม้ว่าลุงหมอจะอธิบายขั้นตอนแล้วพยายามทำตาม แต่ลุงหมอก็มองว่ายังเสี่ยงมากอยู่ดีเพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นรับประกันไม่ได้ ถ้าพลาดอันตรายถึงชีวิตทีเดียว
เพราะ….
ถ้าทำแท้งเมื่อตั้งท้อง 3-4 เดือนนั้น มีโอกาสเสียชีวิตสูง 7.7 เท่า เมื่อเปรียบเทียบที่อายุครรภ์น้อยกว่านี้ และมีโอกาสเสียชีวิตสูง 31 เท่าถ้าทำแท้งเมื่อท้องเกิน 5 เดือน การเสียชีวิตมักเกิดจากตกเลือด นานเกินไป (มีผู้หญิงบางคนเลือดออกเร็วและมากเหมือนเปิดน้ำก๊อก) การไปโรงพยาบาลช้าไป ทำให้การติดเชื้อทั้งที่มดลูกและกระแสเลือดรุนแรงมาก ทำให้รักษาไม่ทันเวลา
มีเหตุการณ์หนึ่ง วัยรุ่นท้องได้ 5 เดือนได้ซื้อยาทำแท้ง และอยู่ที่หอพักนอกเมืองอยู่คนเดียว ปรากฏผลแท้งสมใจ แต่มีเลือดออกมากและรกค้างเลือดไหลมากอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ยังมีสติ จึงได้โทรโทร 1669 รถฉุกเฉินของโรงพยาบาลมารับไปรักษาได้ทันก่อนมีอาการช๊อค องค์การอนามัยโลกจึงมีมาตรฐานว่าการทำแท้งที่ท้องเกิน 3 เดือนควรต้องรับไว้ดูแลในโรงพยาบาลเพื่อความปลอดภัย
สรุปว่า การคิดก่อนทำ…
ข้อดีกับข้อเสีย ความเสี่ยงกับความปลอดภัย
เลือกปลอดภัยมากกว่า เสี่ยงน้อยดีกว่าครับ
ด้วยรักและห่วงใย
นพ.เรืองกิตติ์ ศิริกาญจนกูล ผู้ประสานงานเครือข่าย RSA