คุณแม่คนหนึ่งเล่าให้หมอฟังว่า พอรู้ว่าลูกสาววัย 17 ปี ท้อง เมื่อตรวจพบปัสสาวะขึ้น 2 ขีด เธอก็คิดมาก เครียด นอนไม่หลับ ข้าวปลาก็ไม่อยากกิน คิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
ที่ผ่านมาเธอก็ดูแลลูกสาวมาตลอด ทิ้งลูกไม่ได้ พ่อเขาทิ้งแม่ไปสองปีแล้ว ไปมีเมียใหม่ ไม่เคยดูแลทางบ้านเลย ความรับผิดชอบต่อลูกก็ไม่มีเลย ค่าเล่าเรียน ค่ายารักษาโรค พ่อมีแต่บอกว่าไม่มี ไม่เคยส่งมาให้เลย แม่ต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง การที่ลูกท้อง มันก็หนักที่ว่าเขาต้องทิ้งแม่ไปอยู่กับแฟนที่จังหวัดอุตรดิตถ์ แต่เขายังเด็กดูแลตัวเองไม่ได้ แม่ต้องหาเงิน
ตอนนี้ลูกสาวก็เริ่มหาเงินช่วยกันได้แล้ว เรามีภาระหนี้สิน กยศ. กู้เงินเรียนที่ต้องจ่ายคืน ลูกสาวเป็นคนอารมณ์ดีกินเก่ง ตอนนี้ทำงานช่วยญาติเป็นแคชเชียร์ทั้งๆ ที่จบแค่ ม.3 แม่เองก็ทำงานเป็นลูกจ้างในร้านอาหาร ลูกสาวเป็นเด็กดีน่ารัก ชอบซื้อของมาให้แม่ วันเกิดแม่ก็ซื้อทองมาให้แม่สลึงนึง เรารักกันมากและมีกันสองคน เรื่องประจำเดือนของเขาจะคอยดูแลตัวเองตลอด แต่คุณแม่เล่าให้ลุงหมอฟังว่า “ลูกสาวกินยาคุมผิด ไปกินตอนไม่เป็นประจำเดือนและกินหลังร่วมเพศแล้ว”
นอกจากเรื่องท้อง แม่ยังเป็นห่วงเรื่องว่าลูกสาวจะเสี่ยงช่วงตั้งท้องเพราะลูกอ้วนมาก เคยได้ยินมาก่อนว่าผู้หญิงน้ำหนักมากจะคลอดยาก กลัวอันตรายจากโรคที่จะตามมา ตอนนี้หนัก 70 กิโลแล้ว ถ้าท้องก็อาจเพิ่มเป็น 90 กิโลได้ และเขาก็ตัวไม่สูงแค่ 150 ซม.เอง ความที่รู้สึกว่าลูกสาวจะเสี่ยงและเป็นอันตราย เพื่อนบ้านก็แนะนำว่า “เรามาแก้ปัญหาตรงนี้ก่อนไหม เอาลูกไว้ก่อน หลานไว้ทีหลัง” เพื่อนๆ ก็เลยแนะนำให้กินยาสตรีเบลโล บอกว่า 2 ขวดแล้วเมนส์จะมาเอง คือจะหลุดเลย ลูกทำตามคำแนะนำ รอไป 4-5 วันก็เงียบกริบ คุณแม่จึงไปถามที่อนามัยว่าลูกสาวมีปัญหาท้องไม่พร้อม เจ้าหน้าที่บอกว่ามีที่ทำอยู่ที่หน้าวัดแห่งหนึ่ง แต่ไม่บอกชื่อคลินิก
คุณแม่เล่าให้หมอฟังต่อว่า “เจ้าหน้าที่ก็ทำตามหน้าที่ของเขา ที่ไม่บอกเพราะกลัวบาป” (แต่หมอคิดต่อว่าแต่ถ้าคนไม่รู้แล้วไปทำแท้งกับหมอเถื่อน น่าจะบาปกว่ามันจะเป็นอันตรายกับผู้หญิงมากกว่าไหม)
จึงไปถามคนในตลาดโดยไม่รู้สึกอายนะ เพราะว่าถ้ารู้ชื่อคลินิก จะรู้สึกสบายใจที่ลูกจะได้รับการช่วยเหลือ ไปพบคนขี่มอเตอร์ไซด์ผ่านมา แม่ดีใจมากเพราะเขารู้จัก บอกแม่ว่าชื่อคลินิกอะไร พร้อมบอกทางไปคลินิก และแถมด้วยว่าคลินิกนี้ใครๆ ก็ไปหา ปลอดภัยแน่นอน คุณแม่ก็ไปตามนั้น แต่ไม่พบคุณหมอ เจ้าหน้าที่คลินิกแจ้งเวลาทำงานของคุณหมอ
หลังจากนั้น คุณแม่ก็ไม่รอช้ารีบพาลูกสาวมาพบคุณหมอตามเวลา ตรวจอัลตร้าซาวด์ดูอายุครรภ์ คุณหมอรับฟังปัญหา ทั้งคู่ได้รับการปรึกษาทางเลือก ตัดสินใจอย่างมีอิสระตามเหตุผลที่ไม่พร้อมมีลูก ซึ่งลูกสาวตัดสินใจเห็นด้วยกับคุณแม่ เธอได้รับการช่วยเหลือ นัดตรวจติดตามผล ดูแลการแก้ปัญหาได้อย่างปลอดภัย
หลังจากนั้น คุณแม่เล่าให้ฟังว่าลูกสาวสบายดี ทำงานได้ วิธีการทำแท้งไม่ได้น่ากลัว ทั้งคู่ยอมรับและเชื่อมั่นมาก ขอบคุณ ชื่นชมคุณหมอ กรณีนี้ดีที่มีคุณแม่ช่างถาม ถามเพื่อน ถามอนามัย แต่อีกกรณีที่ลุงหมอพบนั้นไม่ใช่..
ผู้หญิงอีกคนอายุ 26 ปี จบปริญญาตรีและเป็นลูกจ้างหน่วยงานรัฐ แฟนอายุ 23 ปี ทั้งคู่อยู่ด้วยกันมา 5 ปี โดยไม่ได้แต่งงานกัน ตัวเธอเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ตอนอายุ 4 ขวบ ก็ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ อาการก็ปกติ
จนกระทั่งเมื่อ พ.ศ. 2555 เธอมีอาการเหนื่อยมาก ตรวจพบความผิดปกติของลิ้นหัวใจ ซ้ำยังเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษอีก ทำให้เธอต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจอีกครั้ง กินยารักษาไทรอยด์เป็นพิษด้วย แต่คุณหมอที่ผ่าตัดได้พูดกำชับเธอว่า ถ้าเธอแต่งงานก็ขอให้ทำหมันเสีย เพราะการมีลูกจะทำให้อาการโรคหัวใจกำเริบขึ้นอีก และอาจมีอาการแทรกซ้อนรุนแรงจนเสียชีวิตได้ เธอต้องกินยาวาร์ฟารินซึ่งเป็นยาต้านการแข็งตัวของเลือดเป็นประจำ เธออยู่กับแฟนใช้วิธีป้องกันไม่ให้ท้องด้วยการให้แฟนสวมถุงยาง แต่แฟนบางครั้งก็ไม่ใช้ทำให้ต้องซื้อยาคุมฉุกเฉินมากิน
แต่รอบนี้เธอพลาด ประจำเดือนครั้งสุดท้ายมาวันที่ 20 ธันวาคม 2559 วันที่ 31 มกราคม 2560 เธอตรวจปัสสาวะ พบว่าตัวเองท้อง ! ทั้งๆ ที่กินยาคุมฉุกเฉิน เธอรีบหาข้อมูลจาก google ค้นหาสถานบริการที่จะช่วยยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยเพราะไม่สามารถจะท้องได้
เธอพิมพ์คำว่า “ท้องไม่พร้อม“ และ “ยุติตั้งครรภ์” ข้อมูลที่เธอพบมีการขายยาทำแท้งจากเว็บไซต์ต่างๆ เธอผ่านไปไม่คิดจะไปซื้อ คิดว่ามันอันตรายสำหรับกรณีของเธอที่เป็นโรคหัวใจ เธอพบข้อมูลว่ามีคลินิกเอกชนที่มีหลายสาขาและพร้อมเบอร์ติดต่อ
เธอได้โทรไปมีเจ้าหน้าที่คลินิกรับสายและนัดไปรับบริการที่คลินิกได้ เธอตกลงไปตามนัดและแพทย์ตรวจอายุครรภ์ด้วยอัลตร้าซาวด์ น่าดีใจที่เพิ่งท้องได้ 7 สัปดาห์ เธอแน่ใจกับการเลือกทางออกด้วยการให้แพทย์ยุติการตั้งครรภ์ด้วยวิธีทางศัลยกรรมทำได้อย่างปลอดภัย และคราวนี้เธอได้รับยาคุมกำเนิดแบบฉีดชนิด 3 เดือน ซึ่งจะไม่มีผลต่อโรคลิ้นหัวใจ และไม่ท้องซ้ำอีก
การสั่งยาทำแท้งทางอินเตอร์เน็ตเพื่อยุติการตั้งครรภ์ ได้สร้างปัญหาต่อผู้หญิงเพราะจำนวนมาก และไม่ได้ผล กลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา หมอมีผู้รับบริการวัยรุ่นท้อง 12 สัปดาห์ เล่าให้ฟังว่า ได้ยาชื่อไซโตล๊อค (Cytolog) หรือที่เจอกันบ่อยๆ ในชื่อ ไซโตเทค 1 แผง มี 8 เม็ด มาสอดช่องคลอด จากเว็บไซต์ที่มีชื่อว่าคลินิกแพทย์… โดยโฆษณาว่ายาได้ผล 99-100% เสียค่ายาไป 4,020 บาท แต่ไม่มีอาการปวดท้องหรือเลือดออก เดือนกุมภาพันธ์ผู้ใช้ยาคนเดิมจึงได้โทรไปหาอีก ก็ได้รับคำแนะนำว่าให้ซื้อยาเพิ่มอีกครั้งนี้ต้องจ่ายอีก 4,020 บาท แต่เธอไม่แน่ใจจึงได้มาหาหมอในที่สุด
ยังมีอีกรายตั้งท้องเดือนกว่า สั่งยาจากเว็บชื่อ Y..P..Clinic จ่ายเงินไป 4,800 บาท สอดยาไป 12 เม็ด ปรากฏว่าไม่แท้งไม่มีเลือดออก ทำให้เธอเครียดหนักมาก…
แท้จริงแล้ว การค้นหาผู้ให้บริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยนั้นไม่ยาก มีหลายช่องทางโดยเข้าถึงหน่วยบริการยุติตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยที่ https://rsathai.org/networkservice โทรปรึกษาไปที่สายด่วนปรึกษาท้องไม่พร้อม 1663 เวลา 9.00 – 21.00 น. ทุกวัน หรือ ทางแฟนเพจ Facebook : 1663 สายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม หรือ แชทได้ที่ห้องแชทในเว็บไซต์ www.lovecarestation.com เวลา 16.00-24.00 น. ทุกวัน หรือที่ facebook: lovecarestation ที่สำคัญ ช่องทางทั้งหมดที่ว่ามา จะส่งต่อผู้ท้องไม่พร้อมไปถึงแพทย์อาสา RSA ที่จะช่วยให้ยุติการตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัยครับ
ด้วยรักและห่วงใย
ลุงหมอเรืองกิตติ์ ศิริกาญจนกูล