นายแพทย์มรกต กรเกษม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าของ การช่วยเหลือหญิงที่ทำแท้งหลังตั้งครรภ์ขณะที่ยังไม่พร้อม และพบปัญหาการติดเชื้ออย่างรุนแรงหลังทำแท้งถึงร้อยละ 40 ทำให้อัตราการเสียชีวิตของผู้ทำแท้งสูงถึง 300 คนต่อแสน โดยร้อยละ 60 ของผู้ที่ทำแท้งเป็นวัยรุ่นและเยาวชน
จึงมีการนำเสนอให้พัฒนาคุณภาพบริการหญิงหลังแท้ง และการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ โดยเน้นการรักษาภาวะแทรกซ้อนจากการแท้งที่ไม่ปลอดภัย การให้คำปรึกษาเพื่อป้องกันการแท้งซ้ำ และการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ด้วยเทคโนโลยีที่ปลอดภัยทันสมัยตามที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะให้โรงพยาบาลทุกแห่งเร่งปรับเปลี่ยนใช้วิธีใหม่โดยเร็ว
สำหรับยาที่องค์การอนามัยโลกแนะนำในการรักษาการตกเลือดหลังแท้งและการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ ในระยะแรกของการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์มี 2 ชนิด ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นคำขอขึ้นทะเบียนในไทย แต่มีข้อบ่งใช้สำหรับเป็นยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน และการใช้ยาควบคุมพิเศษ
นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนให้แพทย์ปฏิบัติตามข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ ภายใต้กฎหมาย อาญามาตรา 305 โดยให้แพทยสภาราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยควบคุมดูแลคุณภาพในการบริการของแพทย์ ให้แพทยสภาเร่งจัดทำแบบฟอร์มรายงานประกอบการปฏิบัติตามข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์แล้ว และชี้แจงประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจกับแพทย์ บุคลากรสาธารณสุข กลุ่มวิชาชีพอื่น อาทิ ตำรวจ ผู้พิพากษา อัยการ ทนาย สื่อมวลชนและสังคมในเรื่องปัญหานี้
ขณะเดียวกันยังต้องเร่งรณรงค์เรื่องการป้องกันโดยให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา การมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ด้วยวิธีการวางแผนครอบครัว การคุมกำเนิด สุดท้ายคือการสร้างความเข้าใจและทัศนคติที่ดีเรื่องปัญหาการแท้งที่ไม่ปลอดภัย
แหล่งที่มา : “ติดเชื้อหลังทำแท้งเถื่อนเสียชีวิต 300 ต่อแสนคน.” ศูนย์ข่าวแปซิฟิค 2 มกราคม 2551.
ที่มา : https://www.gotoknow.org/posts/157552 โดย ผศ.นพ.ธนพันธ์ ชูบุญ