
”ผู้หญิงน่ะ แก่ง่ายตายยาก“ เขียนมาแบบนี้รับรองว่ามีคนด่าผมก่อนอ่านย่อหน้าต่อไปแน่ๆ
ใจเย็นๆ ผมกำลังจะอธิบายครับ
คือผู้หญิงผู้ชายน่ะ มันแตกต่างกันเพราะฮอร์โมนครับ ผู้ชายอย่างผมมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจากอัณฑะ ในขณะที่ผู้หญิงจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผลิตออกมาจากรังไข่
ฮอร์โมนผู้หญิงทำให้กระดูกแข็งแรง หลอดเลือดมีความยืดหยุ่น ผิวหลอดเลือดมีความแข็งแรงฉีกขาดยาก ผู้หญิงจึงอายุยืนครับ อายุราวๆ ปลาย ๔๐ ถึงต้น ๕๐ ไอ้พวกผู้ชายอย่างผมเริ่มทยอยเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันกันบ้างแล้ว ในขณะที่ผู้หญิงยังมีหลอดเลือดหัวใจที่ดีอยู่มาก พวกเธอจึงอายุยืนกว่าพวกชายแท้ไข่ห้อยอย่างพวกผม
แต่ที่ว่าแก่ง่ายนั่นก็มีที่มา เพราะรังไข่ผู้หญิงมันมีอายุจำกัดจำเขี่ยมาก กำลังสาวอยู่ดีๆ พออายุย่างเข้า ๔๘ เท่านั้น ไข่ก็เริ่มหมดอายุ และเมื่อมันหมดอายุ ฮอร์โมนจึงหมด ความเสื่อมจากการขาดฮอร์โมนก็เริ่มสิครับ เราเรียกว่า “วัยทอง”
จากที่ผิวตึงๆ เด้งๆ ก็เริ่มลดความตึงลง บางที่เหี่ยวลงมาเลย ช่องคลอดแห้ง มีเซ็กส์ก็เริ่มแสบ เยี่ยวไม่สนุก กระดูกเริ่มบางลง หลอดเลือดเริ่มเจ๊ง
ช้าก่อน ไอ้ที่ว่าหลอดเลือดเริ่มเจ๊งหลังวัยทองนั้นน่ะ คือราวปลาย ๔๐ ถึงต้น ๕๐ มันเริ่มเสื่อม ในขณะที่หลอดเลือดของพวกผมที่อายุเท่าๆ กันมันเจ๊งนำหน้าไปก่อนแล้ว นั่นก็หมายความว่า แม้ว่าพวกเธอเริ่มแก่ตัวลง พวกเธอก็ยังตายช้ากว่าพวกผมอยู่ดี
หลอดเลือดหัวใจคือกุญแจสำคัญของการมีอายุยืนครับ ผิวหลอดเลือดที่เรียบลื่นนั้นมันสำคัญต่อการไหลเวียน ใต้ผิวหลอดเลือดจะเป็นที่สะสมของตะกรันไขมัน หรือไอ้พวกคอเลสเตอร์รอลนั่นแหละ เชื่อไหมว่าฮอร์โมนเพศหญิงหรือเอสโตรเจน มันทำให้การสะสมของตะกรันเกิดขึ้นช้าและน้อยกว่าของผู้ชาย หรือถ้ามีตะกรันแล้ว ผิวหลอดเลือดมันก็ยังมีความยืดหยุ่นสูงฉีกขาดยากกว่า การไหลเวียนของเลือดมันเลยยังดีอยู่ตลอดไง
โรคหัวใจน่ะมันเกิดเพราะมีอะไรสักอย่างทำให้ผิวหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจมีการฉีดขาด ซึ่งแม้ฉีกนิดเดียวร่างกายก็จะรีบวิ่งไปซ่อมแซมในทันที นั่นคือเจ้าเกล็ดเลือดจะรีบเข้าไปอุดรอยฉีด และตอนนี้แหละที่การอุดมันมากขึ้น มีการสร้างตาข่ายขึ้นมาดักเม็ดเลือดเอาไว้ ดักไปดักมามันก็เลยกลายเป็นก้อนเลือดอุดตันไปเสียฉิบ
เคยถูกมีดบาดไหมครับ เอามือกดไว้นิดหน่อย เลือดก็หยุดได้แล้ว นั่นเพราะมีก้อนเลือดมาอุดแผลเอาไว้ หัวใจขาดเลือดมันเกิดขึ้นจากกระบวนการนี้แหละ
ผู้หญิงน่ะ ตายยากแก่ง่าย เชื่อแล้วยัง ยังครับยัง ยังไม่จบ
กระบวนการธรรมชาติมันทำให้ความสาวหยุดลงและความเสื่อมเริ่มเข้ามา พวกผมก็เก่งพอที่จะช่วยชะลอความเสื่อมนั้นได้นะครับ นั่นคือการใช้ฮอร์โมนเพศที่ขาดนั้นใส่กลับเข้าไป
เดี๋ยวววววว อ่านมาถึงตรงนี้แล้วห้ามหยุดอ่านนะครับ เพราะต่อจากนี่คือข้อความสำคัญ
ในยุคแรกๆ ของการใช้ฮอร์โมนด้วยคอนเซ็บชะลอความแก่นั้น เราคิดว่ามันจะช่วยทำให้กระดูกแข็งแรงเหมือนเดิม และลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจลง นี่มันยาเทวดาชัดๆ!
แต่ปรากฎว่า เมื่อใช้ยาไปสักระยะกลับมีผู้หญิงตายเร็วขึ้นเว้ย!
เอาล่ะ ผมจะค่อยๆ เล่าให้ฟัง อ่านช้าๆ นะครับ
จริงอยู่ ที่ฮอร์โมนทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น เรื่องนี้ผ่านมากว่า ๓๐ ปี เราก็ยังยืนยันว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ หากแต่ส่วนที่ไม่จริงนักคือเรื่องหลอดเลือด
มีตัวอย่างจากคนไข้ ๒ คนที่จะเล่าและเปรียบเทียบให้ฟัง
หญิงคนแรก อายุ ๔๘ ปีมีอาการเข้าสู่วัยทอง เธอมีอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกจนน่ารำคาญ คนอื่นหนาวเธอร้อน คนอื่นร้อนเธอหนาว เป็นบ้าอยู่คนเดียว เธอคนนี้มารับยาฮอร์โมนเอสโตรเจนครับ อาการของเธอจึงทุเลาลงอย่างรวดเร็ว และเธอไม่ยอมหยุดใช้ยาเพราะกลัวอาการมันกลับมา ถึงตอนนี้ก็เดาได้ ว่ากระดูกของเธอยังคงแข็งแรง หลอดเลือดก็ยังคงโคตรดีเลยครับ ตราบเท่าที่ใช้ยาต่อไปสิ่งดีๆ ที่เล่ามาก็จะยังคงอยู่ แต่ช้าก่อน ถ้าใช้ไปนานๆ นานกว่า ๕ ถึง ๖ ปีขึ้นไป อาจจะมีปัญหาที่เต้านมได้นะครับ หลายคนกลัวเป็นมะเร็งเต้านม ใช่ครับ มันเริ่มพบมากขึ้นตามระยะเวลาของการใช้ ขึ้นกับชนิดของยาและวิธีใช้ แต่เชื่อเหอะ มันมีวิธีในการเฝ้าติดตามครับ ไม่ได้น่ากลัวจนเกินไป
กับหญิงคนที่ ๒ เธอผ่านวัยทองมานานเกิน ๑๐ ปีแล้ว วันดีคืนดีเธออยากสาวผิวเด้งนมตึงช่องคลอดชุ่มกระดูกแข็งแรงดี เธออยากใช้ฮอร์โมน เพราะคิดว่า “ฮอร์โมน ฮอร์โมนเป็นยาวิเศษ ฮ่าไฮ่ ฮ่าไฮ่”
ฮายยยยย ..ถึงตอนนี้หลอดเลือดของเธอพังไปแล้วนะครับ คิดดูสิ ตั้ง ๑๐ ปีผ่านไป
คราวนี้มีหมอที่บ้าจี้พอที่จะให้ฮอร์โมนเธอ เมื่อใช้ไปสักพัก หลอดเลือดก็จะเริ่มสาวขึ้น ความยืดหยุ่นเริ่มมา ไอ้ที่แข็งๆ ไปแล้วก็เริ่มขยับ ผิวหลอดเลือดจะเริ่มแตกร้าว (ลองนึกถึงคนทาหน้าด้วยแป้งดินสอพอง ปล่อยไว้จนแห้ง แล้วยิ้มดูสิ)
แตกสิครับ ผิวหลอดเลือดแตก เกล็ดเลือดกรูกันเข้ามาอุดรู มาถึงตอนนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ฮอร์โมนเพศหญิงนี้ก็แปลก ตัวมันเองทำให้หลอดเลือดแข็งแรงยืดหยุ่นป้องกันการเกิดโรคหัวใจ แต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้น้ำเลือดแข็งตัวและเกิดลิ่มเลือดง่ายครับ ย้อนแย้งเข้าใจยาก เข้าใจยากเหมือนผู้หญิงเลย (อุย)
…
คนที่จะต้องใช้ยาฮอร์โมนอย่าเพิ่งเป็นกังวลไปนะครับ เพราะยาในยุคนี้มันพัฒนาไปไกลมากแล้ว เรามีความรู้มากขึ้น คนใช้ฮอร์โมนก็ปลอดภัยขึ้นมากด้วยเช่นเดียวกัน
ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ใช้ในสตรีวัยทองนั้นมันถูกทำมาเพื่อรักษาอาการวัยทอง เราใช้ในคนที่มีอาการมากจนรบกวนชีวิต มันจึงมีความเข้มข้นมีความแรงน้อยครับ ใช้เพียงนิดเดียวตามงานวิจัยจึงมีความปลอดภัยสูง
ผมกำลังพูดถึงฮอร์โมนสำหรับคนวัยทอง ไม่ได้หมายความถึงยาคุมกำเนิดซึ่งเป็นฮอร์โมนเหมือนกัน
ยาคุมกำเนิดหรือยาคุม มันมีฮอร์โมนในความเข้มข้นสูงกว่า เรียกว่าสูงกว่าฮอร์โมนวัยทองมากนะครับ เค้าใช้กับสาวๆ เพื่อยับยั้งการตกไข่ป้องกันการท้อง มันไม่ใช่ฮอร์โมนสำหรับชาววัยทอง อย่าได้ไปหามากินเพื่อเพิ่มความสาวเป็นอันขาด อย่าหาทำ ขนาดชายที่จะเปลี่ยนเป็นหญิง ผมยังไม่ใช้ยาคุมเลยนะครับ มันอันตราย
เรื่องฮอร์โมนวัยทอง ขอให้ปรึกษาหมอสูติอย่างพวกผมนะครับ อย่าซี้ซั้วใช้ เชื่อผม…
วันนี้ครับ มันเป็นวันที่ผมต้องตรวจคนไข้ที่คลินิกนรีเวชตามปกติ และทึ่ปกติจริงๆ ก็คือคนไข้ของผมกว่า ๗๐% คือสตรีเลยวัยทองไปแล้ว พวกเธอ เอิ่ม..อันที่จริงต้องเรียกว่าป้าๆยายๆเสียมากกว่า เธอมีอายุเกินกว่า ๖๐ ไปแล้วเกือบทั้งนั้น
“ยายมีโรคประจำตัวไหมครับ” ยายกลีบแกมีอายุ ๘๐ ถ้วน อีกราว ๒ เดือนแกจะเข้ารับการผ่าตัดรักษาภาวะมดลูกโผล่แลบ ผมจึงถามย้ำด้วยความเคยชิน
“มีเบาหวาน ไขมัน ความดันค่ะ แต่มันเป็นไม่มากหรอกหมอ ยายกินยาคุมอยู่” แกกำลังภูมิใจกับโรคที่แกเอาอยู่นั้นได้
“เดี๋ยว..” ผมเสียงดังเบรกอารมณ์นั่นไว้
“ยายกินยาคุมไม่ได้ แก่แล้ว จะกินยาคุมทำไม ยายไม่มีทางท้องได้แล้ว ไหนว่าตาไม่อยู่แล้วด้วย เดี๋ยวนะ ใครให้กิน” ผมโวยวายเสียงดังเป็นชุด
เผียะ! นั่นไง ฝ่ามือปราบมารตีลงมาที่หน้าขาเผียะใหญ่
”ยาคุมไอไหร หมอนิ ยายกินยาคุมเบาหวาน คุมความดันนิหมอ ฮายยย“
”ออ แล้วใครเค้าเรียกกินยาคุมเล่ายายเห้อ” งานนี้ได้แกล้งคนแก่ สบายใจไปเปลาะหนึ่ง
ในช่วงบ่ายครับ ผมได้รับการปรึกษาจากหมอรุ่นน้องให้ช่วยดูคนไข้ที่มีอาการกลั้นอึไม่ได้คนหนึ่ง
ยายพิกุลแกมีอายุ ๘๐ ถ้วน ลูกสาวเข็นรถนั่งพาแกเข้ามาให้ผมตรวจ อันที่จริงเรื่องกลั้นขี้ไม่ได้มันไม่ใช่ความถนัดของผมเท่าไหร่นัก เพียงแต่การถามประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้นนั้นก็มีความจำเป็น
“แม่มีโรคประจำตัวอะไรบ้างไหมครับ” คนไข้บางคนผมเรียกมะ บางคนเรียกม่า บางคนก็เรียกแม่ แล้วแต่อารมณ์มันพาไป
“เป็นเบาหวาน เป็นความดันค่ะ แต่ก็กินยาคุมอยู่นะคะ” ยายพิกุลตอบ
“ห๊ะ เดี๋ยวน้าาาาาา“ ผมเบรกคนไข้หัวขมำไปอีกราย ๕๕
วันนี้คือวันยาคุมของคนแก่แห่งชาติ และมันคือวันแกงคนแก่แห่งชาติเช่นเดียวกัน
ธนพันธ์ ชูบุญขี้แกงอิตาย
๑๒ มี.ค. ๖๗
ขอบคุณที่มา : ผศ. นพ.ธนพันธ์ ชูบุญ https://facebook.com/thanapan.choobun