“ฉันก็แค่อยากจะบอกเธอว่า เธอเป็นยังไง ลูกก็จะเป็นอย่างนั้น เธอเล่นยา ต่อไปลูกเธอก็จะเป็นเด็กติดยา” ข้างเตียงที่ผมยืนอยู่ มีคนไข้คนหนึ่งที่ดูเผินๆแล้ว เธอน่าจะเป็นหญิงหลังคลอดปกติ

ไม่ใช่ผมกำลังมองว่าเธออ้วน เธอไม่ได้อ้วน (มีคนร้อนตัวใช่ไหม) แต่ที่ที่เธอพักอยู่บนเตียงขณะนี้มันอยู่ในวอร์ดหลังคลอดไง…

ในช่วงเย็นของศุกร์ก่อนหน้านั้น ผมได้รับรายงานว่าสายการทำงานของทีมเรารับผู้หญิงท้องรายหนึ่งเข้ามา เธอติดยาหลายชนิด ยังไม่ได้รับการฝากครรภ์ และตอนนี้เธอกำลังมีความดันเลือดสูงมาก

“ยาบ้า” ผมส่งเสียงสูงให้อาจารย์เปิ้ล เธอคนนี้มักจะได้ดูแลคนไข้ที่แรงและมีอาการหนักมาตั้งแต่เหยียบพื้นโรงพยาบาลอยู่เสมอๆ
“ใช่ค่ะแป๊ะ” เธอตอบมาพร้อมการส่ายหน้าเบาๆ แบบคนกำลังสังเวชอะไรสักอย่าง

ใช่สิ ทีมเราเคยรับคนไข้ที่ใช้ยาบ้าจนเกิดโรคตอนตั้งท้องมาแล้ว เรากลัว เราหลาบ และเราเบื่อ และเมื่อพูดถึงคนท้องเสพยาบ้า ภาพของนังคนสวยแห่งสะบ้าย้อยก็ลอยเข้ามาเลย


ราวสิบปีก่อน เราได้รับการส่งต่อคนท้องมาจากโรงพยาบาลสะบ้าย้อยด้วยเรื่องความดันสูงจนควบคุมไม่ได้ เธอมีหลอดเลือดบีบตัวรุนแรง (ความดันจึงสูง) จนเกิดการลอกตัวของรกในทันที เด็กในมดลูกตายตั้งแต่ก่อนมาถึงโรงพยาบาล มดลูกบีบตัวแข็งโป๊ก และแน่นอน เธอช็อกทั้งๆ ที่ความดันเลือดสูง และที่สำคัญ คืนนั้นอาจารย์พี่เปิ้ลอยู่เวร การผ่าตัดนำเด็กและรกออกเป็นไปอย่างรวดเร็ว เราจึงสามารถควบคุมภาวะช็อกและความดันเลือดอันผิดเพี้ยนของเธอได้ 

ในการมาราวนด์วันรุ่งขึ้น พวกเราทุกคนลงความเห็นว่า คนไข้ของเราคนนี้เธอช่างมีหน้าตาที่สะสวย เธอสวยมาก จมูกเป็นสันโด่งรับกับรูปหน้า ผิวพรรณสวยเรียบเนียน เธอนอนหลับสบายอยู่บนเตียงคนไข้อย่างไม่รู้สึกรู้สา หลับอยู่อย่างนั้น กระบวนการถอนยามันทำให้เธอหลับเป็นตายนานอยู่ราว ๒ วัน
ผมเรียกเธอว่า “นังคนสวย”

นังคนสวยหายไปจากเราได้ราว ๒ ปี แล้วเธอก็ถูกส่งตัวกลับเข้ามาที่โรงพยาบาลเราอีกครั้งด้วยเรื่องเดิม คือตั้งท้อง เสพยาบ้า ความดันสูงปรี๊ด รกลอกตัวทั้งอัน เด็กตาย และคราวนี้ทีมเราไม่สามารถเก็บมดลูกของเธอเอาไว้ได้ เพราะภาวะรกลอกตัวมันรุนแรงมาก การตกเลือดมันก็รุนแรงจนใช้ยาใดๆ ก็ไม่ได้ผล เธอต้องอยู่ในไอซียูระยะหนึ่ง และหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้เจอกับนังคนสวยอีกเลย เพราะเธอไม่สามารถท้องมาให้เราดูแลได้อีกแล้ว แต่ถึงกระนั้น นังคนสวยก็ยังคงอยู่ในใจของเราเสมอ 

เมื่อมีคนท้องคนไหนเสพยาบ้าจนเกิดอาการครรภ์เป็นพิษรุนแรง หรือความดันสูงจนแทบจัดการไม่ได้เข้ามา เราก็คิดถึงเธอคนนั้นอยู่ตลอด

“อาจารย์คะ คนไข้ในห้องคลอดที่เสพยา หนูว่าเราเอาไม่อยู่นะคะ คือตอนนี้ความดันสูงมาก หนูว่าเราต้องเอาเด็กออก ตอนนี้อายุครรภ์ ๒๒ สัปดาห์ค่ะ อาจารย์จะว่าไงคะ” เสียงของอาจารย์เวรในค่ำวันนั้นโทรมาหาผม 

สาระมันก็คือ ถ้าเราจัดการความดันไม่ได้ หรือว่าเริ่มมีปัญหาตับกำลังจะพัง มีภาวะเกล็ดเลือดต่ำ เราจะจัดการควบคุมโรคได้ยากกว่านี้ หรือถ้ามันรุนแรงมากๆ ก็อาจจะทำให้รกลอกตัว หรือมีอาการชัก มันคือนรกของการอยู่เวรเลยทีเดียว

“พี่เห็นด้วยนะครับ” ผมตอบไป
“อาจารย์คะ หนูไม่ตามหมอเด็กมารับเด็กนะคะ”
“ก็เห็นด้วยเหมือนกัน นี่มันคือการทำให้แท้ง ไม่ใช่ทำให้คลอด” ผมตอบไป ในใจก็นึกไปไกลกว่าสิ่งที่ตอบ นั่นคือ แม้ตัวของคนไข้เอง เธอยังเอาตัวไม่รอด หากหมอเด็กสามารถเลี้ยงเด็กที่มีน้ำหนักแรกเกิด ๔๐๐ กรัมให้รอดได้ ผมว่ามันจะยิ่งเป็นมหัตภัยของครอบครัวแน่ๆ

การกระตุ้นให้เกิดอาการแท้งถูกจัดการในทันที เริ่มตั้งแต่ช่วงทุ่มเศษ และการแท้งเกิดขึ้นโดยสมบูรณ์ในเวลา ๖ โมงเช้าของวันถัดมา

“เธอรู้สึกยังไงบ้าง” ผมถามคนต้นเรื่องในเช้าของอีกวัน ผมสังเกตเห็นว่าร่างกายของเธอยังคงดูแข็งแรง เธอไม่ได้หลับเป็นตายเหมือนนังคนสวยคนนั้น
“เสียใจค่ะ” เธอตอบ “อันที่จริงหนูก็ใช้แค่ยาไอซ์นะหมอ แต่ใช้ครั้งล่าสุดคือเมื่อ ๒ เดือนก่อน”
“ราคาเท่าไหร่เหรอ หมออยากรู้จัง” ผมหมายถึงไอซ์ ยาเสพติดที่ผมไม่เคยได้เห็นกระทั่งของจริง
“๒๐๐ กว่าค่ะ เพื่อนมันหามาให้” 
“แล้วเธอเล่นมันยังไง” ผมพยายามดัดจริตใช้ศัพท์แบบคนเสพยา เล่นยา อัพยา (มั้ง)
“ก็ใช้หลอดแก้วใส่ยา แล้วเผาไฟ แล้วสูด”
“แล้วรู้สึกยังไง”
“ก็คลายเครียดได้ค่ะ”
“แค่นี้เองเหรอ หมอนึกว่ามันจะรู้สึกฟินเหมือนออกัสซั่มมหาศาลเสียอีก ถ้าแค่คลายเครียดแค่นี้แล้วไปใช้มันทำไมวะ เสียของ” เอิ่ม..ไอทีแรกก็นึกว่าจะตู๊บๆ ตูดหนีบเหมือนถึงจุดสุดยอดทางเพศ สมองฟุ้ง ฟรุ้งฟริ้ง โถ่ววว
“ก็เพื่อนมันชวน”
“แหม่..เธอนี่มีเพื่อนดีจังเลย” อันนี้ ผมแสดงท่าทางชัดเจน ว่าประชด

“เธอไม่ได้ใช้ยาบ้าเลยเหรอ”
“ไม่ค่ะ”
“แล้วน้ำท่อมล่ะ หมอรู้มาว่าเธอขายด้วยนิ”
“ค่ะ ขาย ขายด้วยกินเองด้วย แต่ตอนที่รู้ว่าท้อง หนูก็ไม่ได้กินอีกเลยนะหมอ”
“อยากเลิกไหม“
”ค่ะ นี่ก็จะเลิกแล้วค่ะ ไม่เคยรู้ว่ามันจะทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ได้“
”เฮ้ย..เธอ เชื่อไหม การเลิกใช้ยาน่ะ มันยากมาก ใครใจไม่ถึง ก็กลับไปใช้ใหม่นั่นแหละ แต่สิ่งที่ฉันเป็นห่วงก็คือลูก“ ใช่ครับ เธอมีลูกอยู่คนหนึ่ง เด็กมันกำลังเติบโต เติบโตในสิ่งแวดล้อมที่มีแม่แบบนี้

“ฉันก็แค่อยากจะบอกเธอว่า เธอเป็นยังไง ลูกก็จะเป็นอย่างนั้น เธอเล่นยา ต่อไปลูกเธอก็จะเป็นเด็กติดยา เพราะแม่ใช้ได้ ลูกก็ได้ใช้ สิ่งแวดล้อมมันเอื้อมาก” ผมทิ้งท้ายก่อนที่จะจากกันไป

ในวันที่สรุปแฟ้มหลังคนไข้ออกจากโรงพยาบาล ผมเปิดดูและทบทวนการรักษา
“ผลการตรวจหาสารแอมเฟตามีนในฉี่ได้ผลบวก”

“เธอไม่ได้ใช้ยาบ้าเลยเหรอ”
“ไม่ค่ะ“

ภาพของการสนทนาในเช้าวันนั้นมันลอยเข้ามา 
ผมลงชื่อสรุปการรักษาในแฟ้มอิเล็กทรอนิกส์เพื่อส่งเรียกเก็บเงินค่ารักษาจากส่วนกลาง ซึ่งน่าจะเป็น สปสช. ๓๐ บาทรักษาทู้กโรค ในใจก็อยากจะกดเข้าไปดูว่า โรงพยาบาลเราใช้เงินไปเท่าไหร่ในการดูแลคนไข้รายนี้ ที่อยากรู้มากไปกว่านั้นก็คือเราจะสามารถเคลมกลับมาได้กี่ตังค์ 

แต่ที่อยากรู้มากกกกกกกไปกว่านั้น
เธอจะต่อสู้กับจิตใจที่อ่อนไหวนั่นได้อย่างไร

ธนพันธ์ ชูบุญยังไม่เคยฟรุ้งฟริ้ง
๑๐ พค ๖๗
ขอบคุณที่มา : ผศ. นพ.ธนพันธ์ ชูบุญ https://facebook.com/thanapan.choobun

ร่วมติดดาวให้เนื้อหาที่ท่านชื่นชอบ

คลิกที่ดาวเพื่อติดดาวให้เนื้อหานี้

จำนวนดาวเฉลี่ย 0 / 5. จากการติดดาวทั้งหมด 0

ยังไม่มีการติดดาวให้กับเนื้อหานี้... เป็นคนแรกติดดาวให้เนื้อหานี้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่