6 สิ่งที่ควรทำเมื่อทางเลือกคือท้องต่อ
เมื่อทางเลือกคือตั้งครรภ์ต่อไป เตรียมตัวเตรียมใจเผชิญการตั้งครรภ์“เพราะการตั้งครรภ์โดยไม่มีความพร้อมแตกต่างจากการตั้งครรภ์ทั่วไป”
ผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อมจึงต้องเรียนรู้และเตรียมตัวในการเผชิญปัญหา ควรตั้งสติให้ดี หาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ไม่ควรหาทางออกแต่เพียงลำพัง อาจขอรับการปรึกษาจากหน่วยงานช่วยเหลือต่างๆ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาทีละประเด็นเพื่อให้เห็นทางออก
ผู้หญิงจำนวนมากเข้าใจว่าทางออกมีทางเดียวคือการยุติการตั้งครรภ์ และเมื่อไม่มีข้อมูลที่มากพอ หลายคนจึงลงเอยด้วยการไปทำแท้งในสถานและวิธีการที่ไม่ปลอดภัยซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อและเสียชีวิต บางคนก็ไม่กล้าบอกใคร ๆ ทำให้อายุครรภ์ล่วงเลยเกินเลยไปมากกว่าจะยุติการตั้งครรภ์ได้ถึงแม้จะยุติการตั้งครรภ์ไม่ได้ก็ยังมีทางออกอยู่เสมอ
6 สิ่งที่ควรทำ เมื่อทางเลือกคือท้องต่อไป
ฮึดสู้กับสิ่งที่ต้องเผชิญในอนาคตอันใกล้ เราเพียงพลาดพลั้งไปในอดีต แต่นั่นคือสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เรามีความท้าทายในอนาคตที่รออยู่ถามตนเองว่าต้องการอะไร และจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร อะไรคือปัญหาและอุปสรรค เพื่อค่อยๆ หาทางออกทีละเรื่องหาวิธีการบอกผู้ที่เกี่ยวข้องให้รับทราบความจริง เช่น พ่อ แม่...
การยุติการตั้งครรภ์ (ทำแท้ง) ที่ปลอดภัย ทำได้ในอายุครรภ์ไม่เกินกี่สัปดาห์
การยุติการตั้งครรภ์ (ทำแท้ง) ที่ปลอดภัย ทำได้ในอายุครรภ์ไม่เกินกี่สัปดาห์
คำตอบ การยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยควรทำในอายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ หากมากกว่า 12 สัปดาห์ ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเข้ารับบริการที่โรงพยาบาล โดยอายุครรภ์ที่มากกว่า 22-24 สัปดาห์ ไม่ควรยุติการตั้งครรภ์เนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพผู้หญิงและอาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้
ข้อควรระวัง การยุติการตั้งครรภ์ เมื่ออายุครรภ์เกินกว่าจะยุติได้ หรือที่อายุครรภ์มากกว่า 22-24 สัปดาห์นั้นมีอันตรายมากต่อทั้งตัวผู้หญิงและเด็กในท้อง ไม่ควรเอาตนเองไปเสี่ยงชีวิตเพราะอาจทำให้เกิดความพิการ สูญเสียอวัยวะ หรือเสียชีวิตได้ ความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนขึ้นกับวิธีที่ใช้...
Live การรับคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญมีนัยทางกฎหมายอย่างไร? ผศ. ดร. รณกรณ์ บุญมี
https://www.youtube.com/watch?v=Ho0gMRa1QNg&feature=youtu.be
การรับคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญมีนัยทางกฎหมายอย่างไร?
ผศ. ดร. รณกรณ์ บุญมี อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ที่มา : https://youtu.be/Ho0gMRa1QNg แถลงข่าว "ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องพิจารณามาตรา 301 และ 305 แห่งประมวลกฎหมายอาญาว่ามีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย" จัดโดย เครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงท้องไม่พร้อม และ เครือข่ายอาสา RSA ร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันที่ 20...
Live แนวนโยบายของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขต่อการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์
https://youtu.be/kCeLUZWPjj0
นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า กรมอนามัยเล็งเห็นความสำคัญในการลดอันตรายของภาวะแทรกซ้อนจากการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย และการพัฒนาการเข้าถึงบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยด้วยยาในประเทศไทยจึงพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อให้สามารถจัดบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยในระบบบริการสุขภาพอย่างมีคุณภาพและได้มาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนผลักดันให้เกิดเครือข่ายอาสาส่งต่อยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ มาตรา 305 กำหนดข้อยกเว้นให้แพทย์ทำการยุติการตั้งครรภ์ให้หญิงมีครรภ์ได้ 2 กรณี คือ 1. มีความจำเป็นเนื่องจากสุขภาพของหญิง หรือ 2. หญิงมีครรภ์เนื่องจากการกระทำความผิดอาญา เช่น กรณีผู้หญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศ อย่างไรก็ตาม ความไม่พร้อมของผู้หญิงเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งบางปัจจัยอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับกฎหมาย...
Live เปิดแถลงข่าว “ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องพิจารณามาตรา 301 และ 305 แห่งประมวลกฎหมายอาญาว่ามีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย”
https://youtu.be/i6CP7iKIS_U
รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายสนับสนุนทางเลือกผู้หญิงท้องไม่พร้อม กล่าวว่า ระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่ากฎหมายอาญา ม.301-305 ที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะ ม. 301 ที่ระบุว่า หญิงใดทำให้ตนหรือยินยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูก ต้องมีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งข้อเท็จจริงคือ การตั้งครรภ์ไม่ได้เกิดจากฝ่ายหญิงเท่านั้น กฎหมายนี้จึงจงใจละเลยการเอาผิดกับผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงท้อง ซึ่งขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญที่เป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ที่ระบุไว้ว่า ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลทั้งหญิงและชายต้องได้รับการคุ้มครองอย่างเท่าเทียมกัน ...
ข้อเรียกร้องต่อการที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องต่อการแก้กฎหมายทำแท้ง
https://www.youtube.com/watch?v=ysQ65YuyVLQ&feature=youtu.be
ระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้งขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงท้องไม่พร้อม และเครือข่ายอาสา RSA มีข้อเสนอต่อผู้บังคับใช้กฎหมายและผู้เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1. ขอให้ประชาชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน รับรู้และเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า การตีความกฎหมายทำแท้งที่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณานั้น เป็นไปเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้หญิงและครอบครัว ตามสิทธิความจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์
2. ขอให้บุคลากรสาธารณสุขทุกระดับ ตระหนักและไม่หวาดหวั่นต่อการช่วยเหลือผู้หญิงให้เข้าถึงการทำแท้งทางการแพทย์ที่ปลอดภัย รวมทั้งลดอุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการดังกล่าว
3. ขอให้ผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม ได้แก่ ตำรวจ อัยการ ทนายความ และศาล รับรู้และให้ความสำคัญต่อการรับคำร้องนี้
4. ขอให้ตำรวจหยุดจับและดำเนินคดีกับการให้บริการทำแท้งที่ปลอดภัยโดยแพทย์
5. ขอให้ตำรวจมุ่งเป้าหมายไปที่การกวาดล้างการทำแท้งเถื่อน...
แรงกระเพื่อมที่ทำให้ต้องแก้กฎหมายทำแท้ง ?
กฎหมายยังคงอยู่..ตราบเท่าที่กฎหมายนั้นส่งผลในทางบวกต่อผู้คนในสังคม แต่ถ้าเป็นไปในทางตรงกันข้าม ก็ควรมีการเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยมีแรงกระเพื่อมที่เสริมต่อการแก้ไขกฎหมายทำแท้งหลายประการ
ประการแรก:ประเทศไทยมีความก้าวหน้าทางการแพทย์ที่ดีเลิศ มีเทคโนโลยียุติการตั้งครรภ์ด้วยยาที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติอย่างเท่าเทียมนานาอารยประเทศ แต่ผู้หญิงที่ประสบปัญหากลับต้องหาซื้อยาทำแท้งเถื่อนทางอินเทอร์เน็ต ส่งผลให้ไทยต้องเผชิญกับปัญหาอัตราการตายของแม่จากการตั้งครรภ์ติดอันดับต้นๆ ของโลก สาเหตุหลักคือการตกเลือดและติดเชื้อในกระแสเลือด
ประการที่สอง:มาตรา 301 ทำให้ผู้หญิงต้องแก้ไขปัญหาอย่างหลบๆซ่อนๆ ไม่กล้าเปิดเผยตนเองเพื่อขอเข้ารับการปรึกษาหรือบริการสุขภาพ เนื่องจากการตัดสินใจเลือกยุติการตั้งครรภ์มีนัยต่อการทำผิดต่อกฎหมายอาญาความผิดฐานทำให้แท้งลูก เสี่ยงต่อการถูกฟ้องดำเนินคดี ต้องหันไปใช้บริการที่ผิดกฎหมาย เช่น การรับบริการที่คลินิกเถื่อน การซื้อยาจากอินเทอร์เน็ต
ประการที่สาม:แพทย์ผู้ให้บริการยุติการตั้งครรภ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถูกรีดไถเงิน ถูกตั้งข้อกล่าวหาในมาตรา 302 ทั้ง ๆ ที่กฎหมายได้อนุญาตให้แพทย์สามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ตามมาตรา...
หยุดจับและดำเนินคดีกับการให้บริการทำแท้งที่ปลอดภัย
เสนอตำรวจหยุดจับและดำเนินคดีกับการให้บริการทำแท้งที่ปลอดภัยโดยแพทย์ ระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่ากฎหมายอาญาว่าด้วยการทำแท้งอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ
วันที่ 20 ธ.ค.61 เวลา 09.30 น. ห้องประชุมกำธร สุวรรณกิจ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายสนับสนุนทางเลือกผู้หญิงท้องไม่พร้อม และเครือข่ายอาสา RSA (Referral system for Safe Abortion) แถลงข่าวกรณีศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาคำร้องกฎหมายอาญามาตรา 301-305 ที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้งว่าอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ
รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล ผู้ประสานงานเครือข่ายสนับสนุนทางเลือกผู้หญิงท้องไม่พร้อม...
ทำไมต้องให้ความเสมอภาคแก่ผู้หญิงในการตัดสินใจทำแท้ง
มีหลักการ 4 ข้อ ที่ควรจะให้ความเสมอภาคแก่ผู้หญิงในเรื่องการตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ คือ
1) เนื้อตัวร่างกายเป็นสิทธิเสรีภาพโดยสมบูรณ์ของหญิง เมื่อไม่เคยเบียดเบียนคนอื่น หญิงควรมีสิทธิที่จะตัดสินใจได้ว่าจะทำกับตนเองอย่างไร
2) การปล่อยให้ครรภ์ที่ไม่พร้อมคลอดออกมาในสังคม โดยผู้ตั้งครรภ์ไม่พร้อมที่จะดูแลเป็นการสร้างภาระให้กับผู้หญิง ส่งกระทบต่อทั้งอนาคตของเด็กที่เกิดมา และซ้ำเติมปัญหาให้แก่สังคมในอนาคต
3) สิทธิการตัดสินใจควรจะเป็นของผู้ที่สามารถใช้สิทธินั้นได้ ตราบใดที่ตัวอ่อนยังไม่อาจแยกออกจากครรภ์ จึงเป็นเพียง “อนาคต” ที่ไม่แน่นอน สังคมจะยอมให้อนาคตที่ยังมาไม่ถึงนั้นทำลาย “ปัจจุบัน” ทีเดียวหรือ? ถ้าปัจจุบันถูกทำลายอนาคตก็มีไม่ได้
4) การห้ามทำแท้งโดยกฎหมายไม่เกิดประโยชน์แก่ใครเลย เพราะเมื่อผู้หญิงต้องการยุติครรภ์ของตน อย่างไรก็ต้องทำ...
ทำไมต้องแก้กฎหมายทำแท้ง ?
ข้อเท็จจริงคือ “กฎหมาย” ควรต้องปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ ประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยความผิดฐานทำให้แท้งลูก ได้ถูกใช้มากว่า 60 ปีแล้ว สภาพสังคม เศรษฐกิจ และการเมืองไทยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากมาย
ส่งผลให้ในปี พ.ศ. 2560 คณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงประมวลกฎหมายอาญา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้หยิบยกเอาประมวลกฎหมายอาญามาตรา 301-305 มาปรับปรุง โดยมีแนวโน้มให้ตีความสุขภาพครอบคลุมสุขภาพทางใจ และกรณีตัวอ่อนในครรภ์มีความพิการหรือมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคทางพันธุกรรมด้วย ปัจจุบันการพิจารณาดังกล่าวยังไม่แล้วเสร็จ
รูปธรรมปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทยจากครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคม ที่ผลักดันให้ผู้หญิงตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ ได้แก่...