“ในฐานะคนให้บริการ..คิดว่าเราต่างเกิดมาเยียวยากันและกัน หากทำงานด้วยหน้าที่และหัวใจ เราจะพบกับความสุขเล็กๆในจิตใจได้ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เรามีพลังที่จะส่งต่อให้กับใครได้อีกหลายคน”
ทิพย์ (นามสมมติ) แม่ลูกสาม ทุกคนอยู่ในวัยเรียน ทิพย์ต้องหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว ลูกคนโตน้องสาวช่วยส่งเสียเลี้ยงดูด้วย ทำอาชีพรับจ้างตัดยางรายได้พอมีพอกินไปวันต่อวัน พ่อของลูกออกไปทำงานต่างจังหวัดได้ไม่นานก็กลับมาบอกทิพย์ว่ามีภรรยาใหม่และจะไม่ส่งเงินมาแล้ว ทิพย์ต้องแบกภาระครอบครัวพร้อมๆ กับการรักษาบาดแผลในใจ
เมื่อแยกทางกัน…
ทิพย์จึงไม่ได้กินยาคุมกำเนิด ระหว่างนั้นสามีกลับมาหาลูกเดือนละครั้ง ทิพย์จึงตั้งครรภ์
ในภาวะที่ถูกสามีทอดทิ้งไปมีหญิงอื่น เมื่อรับรู้ว่าทิพย์ตั้งครรภ์ สามีผู้ร่วมสร้างปัญหากลับไม่แยแส บอกเพียงว่าให้ไปเอาออก แล้วจากไปอยู่กับภรรยาใหม่ ทิพย์จึงเป็นคนที่เผชิญปัญหานี้แต่เพียงผู้เดียว
ทิพย์คิดว่า หากตั้งครรภ์จะไปรับจ้างเขาตัดยางได้อย่างไร ลูกๆ จะเอาอะไรกิน เอาเงินที่ไหนไปโรงเรียน ในสถานการณ์เช่นนี้ถ้ามีอีกชีวิตมาเพิ่มอีกคน ครอบครัวเราคงพากันไปไม่รอดแน่ๆ….
ทิพย์คิดวกวนไปมาจนเครียดหนัก เคยคิดหนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่ภาพของลูกๆ ทำให้ทิพย์กลับมามีสติ
ทิพย์มาฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลด้วยหน้าตาไม่แจ่มใส บอกกับพยาบาลว่าเครียดมากไม่พร้อมมีลูก ทิพย์ได้เข้าสู่บริการของทีม RSA โรงพยาบาล ได้รับข้อมูลด้านสิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ และข้อมูลด้านสวัสดิการสังคมที่เพียงพอต่อการตัดสินใจ ได้รับการปรึกษาทางเลือก รวมถึงการประเมินทางสังคมและร่วมวางแผนชีวิตที่มืดมนไม่มีทางออกกับนักสังคมสงเคราะห์ ในที่สุด ทิพย์จึงเลือกยุติการตั้งครรภ์
หลังได้รับบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยจากแพทย์ ทิพย์เลือกทำหมันด้วยมีบุตรที่เพียงพอแล้ว ทิพย์บอกกับเราว่า “หลังจากนี้จะกลับไปมีชีวิตที่มีความสุข ขอบคุณทีม RSA ของโรงพยาบาลที่ช่วยให้ทิพย์มีชีวิตใหม่ และพร้อมลุกขึ้นสู้เพื่อลูกแล้ว” เธอกล่าวทั้งน้ำตา
ในวันแรกที่พบกัน น้ำตาของทิพย์มาจากความโศรกเศร้า หมดสิ้นหนทางในชีวิตไม่มีที่พึ่งอื่นใดอีกแล้ว ต่างจากน้ำตาในครั้งนี้ที่ปนรอยยิ้มสอบถามความรู้สึกถึงน้ำตาที่ไหลออกมา ทิพย์บอกว่ารู้สึกโล่งใจ สบายใจ
เมื่อทิพย์มีสติ ความเปราะบางในใจได้รับการเสริมพลัง และเสริมศักยภาพจนมีความเชื่อมั่นในตัวเอง สามารถกลับไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวมีชีวิตตามอัตภาพได้ในที่สุด
ขอเป็นกำลังใจให้ทีม RSA ทุกคนค่ะ
ขอขอบคุณเรื่องเล่าจากเครือข่ายอาสา RSA
นางสาวปาริษา ด้วงทอง นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลตรัง