ในวันที่เธอแบกความเจ็บช้ำมาโรงพยาบาล สามีเธออยู่ไหน?
ชมพู นามสมมติ สภาพภายนอกดูอิดโรย ดวงตาเศร้าหมอง มาโรงพยาบาลด้วยความหวังและความบอบช้ำอย่างสาหัสในจิตใจ เธอนำใบอัลตร้าซาวด์มาปรึกษาคุณหมอ ว่าไม่สามารถตั้งครรภ์ต่อได้
คุณหมอส่งพบนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อให้การปรึกษาทางเลือก และเยียวยาจิตใจ ให้เธอดีขึ้น
ยังไม่ทันเอ่ยคำใดๆ น้ำตาเธอก็พรั่งพรูไหลอาบสองข้างแก้ม
นักสังคมสงเคราะห์หยิบกระดาษทิชชูที่ต้องมีไว้ประจำในห้องให้การปรึกษา ยื่นให้เธอ
ชมพู ตั้งครรภ์ท้องที่ 3 จากการกินยาคุมกำเนิดไม่สม่ำเสมอในระยะหลัง เพราะเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัวเพียงลำพัง ด้วยภาระลูกทั้งสองอยู่ในวัยเรียน และด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้รายได้รายวันเธอลดลงครึ่งหนึ่ง ยังดีที่เธอไม่ต้องถูกออกจากงาน แต่ยังต้องทำงานหนักอยู่เช่นเดิม ช่วงไหนรับจ้างตัดยางได้เธอก็จะไปทำ
ทำไมเธอจึงหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว พ่อของลูกอยู่ไหน ?
พ่อของลูก สามีของเธอ ที่ยกย่องหญิงอื่นเสมอเธอ แต่เธอต้องจำยอมทนเพราะอาศัยอยู่ในบ้านของสามี ที่นี่ไม่ใช่บ้านเกิดของชมพู เธอมาจากอีกภาคหนึ่งของประเทศ เคยหนีกลับไปอยู่บ้านของตนเองแต่ทนคิดถึงลูกไม่ไหว เพราะสามีไม่ยอมให้ลูกไปอยู่ด้วย จึงกลับมาอยู่ในวังวนชีวิตที่บอบช้ำ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นเดิม…
นอกจากสามีจะทำร้ายจิตใจเธอแล้ว ยังมีทำร้ายร่างกายเธอด้วยหากไม่พอใจ และเหตุที่เธอต้องตัดสินใจเลือกยุติการตั้งครรภ์ คือเธอไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรอีกคนหนึ่งได้แล้ว เธอไม่มีรายได้มากพอหากจะต้องมีอีก 1 ชีวิตให้ดูแลตามลำพัง สามีไม่เคยทำงาน ไม่เคยหยิบยื่นเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลลูก และการตั้งครรภ์ครั้งนี้ เมื่อเธอบอกแก่สามี เขากลับไม่รับผิดชอบ ไม่ใส่ใจไยดี ให้จัดการปัญหานี้ด้วยตัวเอง
เธอเครียด วิตกกังวลจนคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง กินยาแก้ปวดทุกวัน กระสับกระส่าย ไม่มีสมาธิทำงาน ไม่มีแรงไปรับจ้างตัดยางในตอนรุ่งเช้า
แต่ลูกทั้งสองคนที่เธอรักปานดวงใจ ทำให้เธอต้องไปต่อ ต้องกินข้าวเพื่อให้มีแรงทำงาน หาเงินมาให้ลูกได้ใช้ได้กินได้เรียนหนังสือ และต้องมีชีวิตอยู่เพื่อเห็นชีวิตที่ดีงามของลูกทั้งสองคน หากขาดเธอไปลูกของเธอต้องไม่ได้รับการเลี้ยงดูที่ดี เพราะพ่อของเขาไม่เคยเหลียวแล
ขณะให้การปรึกษา เธอร้องไห้ให้กับสิ่งที่เธอต้องเผชิญ และความอึดอัดใจ เธอต้องการการเสริมพลังอำนาจเพื่อการตัดสินใจและลุกขึ้นสู้อีกครั้งเพื่อลูกของเธอ และเพื่อตัวเธอเอง
ชมพู แม่ผู้เข้มแข็ง รับผิดชอบลูกเพียงลำพัง เธอมาโรงพยาบาลคนเดียวด้วยรถประจำทาง เธอเผชิญกับปัญหาและหาวิธีการจัดการกับปัญหา… ด้วยตัวเธอเอง ในวันที่สามีไม่เหลือความรักความรับผิดชอบใดๆ ในครอบครัวให้กับเธอ
เธอเด็ดเดี่ยวพอที่จะกลับมารักตัวเอง เพื่อใช้ชีวิตต่อไป เธอไม่ต้องพึ่งพาเขาด้านการเงิน ในเมื่อเธอมีงานทำ และยืนด้วยลำแข้งตัวเองเสมอมา กระทั่งการพึ่งพิงด้านจิตใจ ก็เหลือไว้เพียงความสัมพันธ์ในฐานะพ่อของลูก
เธอได้รับการปรึกษา ได้รับการเสริมพลังอำนาจ เยียวยาจิตใจที่บอบช้ำ เมื่อเธอกล้าที่จะเผชิญกับปัญหา เมื่อนั้นเธอจะตัดสินใจเรื่องสำคัญของชีวิตได้ รวมถึงยอมรับผลของการตัดสินใจนั้นได้ ว่าเธอเลือกยุติการตั้งครรภ์เพราะอะไร
… เธอเด็ดเดี่ยว แม้จะโดดเดี่ยวในการรับผิดชอบปัญหาในครั้งนี้….เพียงลำพัง
ขอบคุณที่มา : เรื่องโดย คุณปาริษา ด้วงทอง นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลตรัง RSA ภาคใต้