
ยาคุมฉุกเฉินอาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ในเวลาคับขัน แต่ไม่ควรใช้เป็น “วิธีประจำ” แทนการคุมกำเนิดหลัก เพราะประสิทธิภาพต่ำกว่าวิธีอื่น และอาจส่งผลต่อร่างกายในระยะยาวหากใช้บ่อย
ยาคุมฉุกเฉิน คืออะไร?
- เป็นยาที่ใช้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน หรือถุงยางรั่ว/หลุด
- ช่วยป้องกันการตกไข่ หรือการฝังตัวของไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว
- ต้องกินให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์:
- สูตร 1 เม็ด: ภายใน 72 ชม.
- สูตร 2 เม็ด:
- กิน 2 เม็ดพร้อมกันภายใน 72 ชม.
- หรือ กินเม็ดแรกภายใน 72 ชม. เม็ดที่ 2 หลังจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง
ใช้ได้เมื่อไหร่? กรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น:
- ลืมกินยาคุมรายเดือนหลายวัน
- ถุงยางขาด/รั่ว
- มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจ
ทำไมไม่ควรใช้บ่อย?
- ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉิน น้อยกว่าการคุมกำเนิดแบบปกติ เช่น ยาคุมรายเดือน ฉีด ฝัง ห่วงอนามัย ฯ
- อาจทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อน วิงเวียน อาเจียน ปวดท้อง เลือดกะปริบกะปรอย
- หากใช้บ่อย อาจทำให้ร่างกายรวน และเพิ่มความเครียดโดยไม่จำเป็น
- ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
ทางเลือกที่ดีกว่า หากมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ หรือยังไม่พร้อมมีบุตร ควรวางแผนใช้วิธีคุมกำเนิดที่ปลอดภัย เช่น
- ยาคุมกำเนิดรายเดือน
- ถุงยางอนามัย
- ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือ ห่วงอนามัย
สรุป: ยาคุมฉุกเฉินมีไว้ “ใช้เฉพาะเหตุฉุกเฉิน” เท่านั้น อย่าใช้เป็นประจำ เพราะมัน “ฉุกเฉินเกินไป” ที่จะใช้บ่อย และอย่าลืมว่า “ป้องกันล่วงหน้า” ดีกว่า “ตามแก้ทีหลัง”
ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการคุมกำเนิด ติดต่อเราได้ที่นี่
Line Official : @rsathai
RSA Online : https://abortion.rsathai.org
เว็บไซต์ : https://rsathai.org
บริการให้คำปรึกษาออนไลน์ จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.00–19.00 น.